คลีนซิ่งมีกี่ประเภท? เลือกยังไงให้ห่างไกลสิว

7013 0

คลีนซิ่ง มีกี่ประเภท? เลือกยังไงให้ห่างไกลสิว

การเลือก คลีนซิ่ง ให้ห่างไกลสิว ไก่งามเพราะคนคนงามเพราะแต่งเป็นสุภาษิตไทยที่นำมาเปรียบเทียบกับผู้หญิงได้ในทุกยุคทุกสมัยจึงเป็นเรื่องปกติที่สาวๆส่วนใหญ่มักจะโบ๊ะหน้าทั้งครีมกันแดด, ซีซีครีม, บีบีครีม, แป้งฝุ่น, แป้งผสมรองพื้น, อายไลเนอร์, มาสคาร่า, บลัชออน, ลิปสติกหรือเครื่องสำอางชนิดอื่นๆอีกมากมายแล้วแต่สาวๆจะหยิบมาเลือกแต่งหน้าเสริมความสวยงามกันแต่ทว่าเมื่อชอบแต่งหน้าแล้วก็อย่าลืมวิธีล้างหน้าเพื่อนำพาเครื่องสำอางเหล่านี้ให้ออกไปจากใบหน้าซึ่งถือได้ว่าสำคัญมากๆเพราะถ้าไม่อยากให้ใบหน้าสวยๆเกิดสิวอุดตัน, สิวเสี้ยน, สิวอักเสบ, สิวหัวช้างรวมทั้งสิวชนิดอื่นๆผุดขึ้นมาบนใบหน้าหรือแม้กระทั่งปัญหาผิวหน้าเช่นผิวแห้งกร้านและเหี่ยวก่อนวัยอันควรเป็นต้น

ถึงเวลาแล้วที่สาวๆควรต้องหันมาใส่ใจเรื่องของความสะอาดผิวหน้าอย่างจริงจังโดยเริ่มจากการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดให้เหมาะสมสาวๆหลายคนคิดว่าแค่ใช้โฟมล้างหน้าเพียงอย่างเดียวก็พอแล้วนั่นหมายความว่าหากวันไหนแต่งหน้าบางๆอ่อนๆไม่ได้แต่งแต้มอะไรมากมายก็สามารถใช้แค่โฟมล้างหน้าได้แต่ในความเป็นจริงอย่าลืมว่าในปัจจุบันนี้เครื่องสำอางรุ่นใหม่ๆมักจะเคลมว่ามีสูตรกันน้ำกันเหงื่อกันได้สารพัดมาพร้อมส่วนผสมที่ทำให้ลบออกได้ยากฉะนั้นจึงต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสาวที่แต่งหน้าหนักๆซึ่งก็คือ“Cleansing Makeup Remover”นั่นเอง

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อได้เลย เซรั่ม ดีอย่างไรทำไมสาวๆถึงต้องมี

 

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าCleansing Makeup Remove มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบด้วยกันอาทิแบบโลชั่น, แบบน้ำนมหรือแบบน้ำมันซึ่งแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติในการขจัดคราบเครื่องสำอางที่แตกต่างกันออกไปและในวันนี้เราจึงได้รวบรวมคลีนซิ่งแบบต่างๆมาให้สาวๆเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวเพื่อให้ห่างไกลจากสิวกันคะ

คลีนซิ่งมีกี่ประเภท? เลือกยังไงให้ห่างไกลสิว

  1. Cleansing Water (โลชั่นแบบน้ำใช้เช็ดเครื่องสำอาง)

เนื้อโลชั่นมีลักษณะเป็นน้ำใสๆถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เนื้อบางเบาสุดซึ่งจะไม่มีส่วนผสมของน้ำมันเลยในบางยี่ห้ออาจจะเรียกว่าเป็นแบบOil-free ก็ได้เวลาที่ใช้จะไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะใบหน้าจึงเหมาะกับสาวผิวมันรวมทั้งสาวๆที่แต่งหน้าน้อยๆอ่อนๆเท่านั้นและ

วิธีใช้ : กดโลชั่นลงบนสำลีประมาณ 2-3 ปั้มจากนั้นก็เช็ดลงไปตามจุดที่เราลงเครื่องสำอางไว้หากใช้ในปริมาณน้อยก็จะทำให้เช็ดเครื่องสำอางออกได้ไม่หมดจดทั่วใบหน้า

ข้อดี : ใช้งานง่ายเช็ดทำความสะอาดในระยะเวลาสั้นๆไม่ทำให้เสียเวลาสามารถเน้นเช็ดไปตรงส่วนเฉพาะจุดได้(Point Makeup)​แต่ถ้าเป็นการเช็ดมาสคาร่าประเภทกันน้ำอาจจะต้องใช้ตัว Eye Makeup remover มาเสริมเป็นตัวช่วยอีกครั้งแถมยังไม่ทิ้งความเหนียวและมันบนใบหน้าอีกด้วย

ข้อเสีย : ไม่สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางประเภทกันน้ำได้อย่างหมดจดและเนื่องจากจะต้องใช้สำลีร่วมด้วยจึงควรเลือกสำลีที่ให้เนื้อสัมผัสนุ่มเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดความระคายเคือง

  1. Cleansing oil (น้ำมันสำหรับเช็ดล้างเครื่องสำอาง)​

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดเครื่องสำอางที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมหลักส่วนมากจะมีตัว Mineral oil และตัวประสาน Emulsifier ทำให้สามารถล้างออกได้ง่ายมากขึ้นซึ่งสาวบางคนอาจจะคุ้นเคยกับ baby oil ที่มีแค่Mineral oil อย่างเดียวเมื่อเทียบกันแล้วจะล้างออกได้ยากกว่านอกจากนั้นCleansing oil ยังเลือกทำความสะอาดเฉพาะ point makeup ได้ด้วย

วิธีใช้ : ให้นวดเบาๆไปที่ใบหน้าเพื่อให้คราบเครื่องสำอางหลุดออกให้ลองสังเกตดูว่าเครื่องสำอางหลุดออกหมดแล้วก็ให้พรมน้ำเล็กน้อยลงไปที่บนใบหน้าตัวน้ำมันก็จะกลายเป็นน้ำนมในทันทีหลังจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาดเพิ่มความชุ่มชื้นไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึง

ข้อดี : สามารถใช้ได้กับสาวๆทุกสภาพผิวและใช้แทนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรอบดวงตากับริมฝีปากอย่างพวกLip &​ Eyes Remover

ข้อเสีย : บางยี่ห้ออาจจะทิ้งคราบมันบนใบหน้าถ้าไม่มั่นใจก็ลองดูรีวิวจากผู้ใช้จริงก่อนก็ได้

  1. Emulsion or Milk Cleansing (โลชั่นน้ำนม)

โดยทั่วไปแล้วตัวอิมัลชั่นจะมีเนื้อลักษณะคล้ายโลชั่นเหลวกึ่งข้นซึ่งมาจากการรวมตัวกันระหว่างน้ำมันและน้ำโดยอาศัยตัวประสานให้น้ำมันกับน้ำผสมเข้ากันเป็นเนื้อเหมือนน้ำนมจึงทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าตัวโลชั่นผสมน้ำนมซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่(นอกเสียจากบางยี่ห้อจะมีส่วนผสมของน้ำนมจริง)​

วิธีใช้ : เทเนื้อคลีนซิ่งลงไปบนฝ่ามือแล้วก็นวดเบาๆไปทั่วใบหน้าจนเครื่องสำอางออกจนหมดเกลี้ยงใบหน้านำฟองน้ำหรือสำลีชุบน้ำค่อยๆเช็ดออกหากว่ายังรู้สึกว่าใบหน้ายังไม่สะอาดพอจะทำซ้ำแบบเดิมๆจนกว่าจะสะอาด

ข้อดี : เหมาะกับสาวที่มีผิวผสมและผิวแพ้ง่ายนอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวแล้วยังช่วยบำรุงผิวหน้าด้วยในตัว

ข้อเสีย : หากเป็นสาวผิวมันถ้าใช้โลชั่นน้ำนมตัวนี้อาจทำให้รู้สึกผิวเหนอะหนะไปสักนิด

  1. Cleansing Cream และ Balm (ครีมหรือบาล์มล้างเครื่องสำอาง)​

สำหรับคลีนซิ่งตัวนี้มาในรูปแบบครีมจะมีลักษณะคล้ายกับครีมบำรุงผิวทั่วไปส่วนเรื่องของความเข้มข้นก็จะแตกต่างกันไปแต่ละแบรนนด์ซึ่งบางแบรนด์เนื้อจะเข้มข้นและมันเยิ้มมากโดยคลีนซิ่งครีมส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของMineral oil, Beeswax จึงทำให้ไม่เป็นที่นิยมของสาวๆเสียเท่าไหร่

วิธีใช้ : ให้ปาดเนื้อคลีนซิ่งลงไปบนใบหน้าถูวนๆนวดไปให้ทั่วทุกบริเวณที่เราต้องการจะทำความสะอาดหลังจากนั้นก็ใช้สำลีเช็ดออกหรือสาวๆคนไหนอยากจะใช้น้ำล้างทำความสะอาดอีกครั้งก็ไม่ว่ากันจร้า

ข้อดี : ด้วยความที่ตัวคลีนซิ่งเป็นเนื้อครีมเข้มข้นจึงช่วยให้ล้างผลิตภัณฑ์ประเภทรองพื้นได้เป็นอย่างดี

ข้อเสีย : คลีนซิ่งครีมจะไม่ค่อยเหมาะกับสาวผิวมันเพราะจะยิ่งทำให้ใบหน้ามันไปมากกว่าเดิมอีกและแนะนำว่าไม่ควรใช้ล้างเครื่องสำอางทุกวันอาจจะเลือกใช้เฉพาะวันที่แต่งหน้าหนักๆหรือรองพื้นจัดเต็มจะดีกว่า

  1. Cleansing Cotton ( คลีนซิ่งคอตตอต)

เทคโนโลยีใหม่สไตล์ญี่ปุ่นที่ชอบคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆมาให้กับสาวๆลองใช้อย่างแผ่นคอตตอตเช็ดเครื่องสำอางที่ผสมผสานออยล์ทำความสะอาดโดยมีลักษณะเป็นเหมือนแผ่นทิชชู่เปียกมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อซึ่งจะแตกต่างเพียงแค่ส่วนผสมเท่านั้นเวลาที่จะหยิบมาใช้อย่าลืมดูด้วยว่ามีส่วนประกอบของตัวทำความสะอาดผิวหน้าอยู่ด้วยหรือไม่

วิธีใช้ : นำแผ่นเช็ดเครื่องสำอางมาบรรจงเช็ดไปทั่วใบหน้าอย่างบรรจงอาจจะเน้นบริเวณๆที่สำคัญเพื่อให้คราบเครื่องสำอางถูกเช็ดออกจนหมด

ข้อดี : เหมาะกับสาวๆที่เดินทางบ่อยเพราะพกพาสะดวกใช้งานง่ายไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะ

ข้อเสีย : ราคาค่อนข้างสูงและต้องใช้หลายแผ่นในการนำมาเช็ดหน้าและยังไม่สะอาดได้เท่ากับคลีนซิ่งประเภทอื่นๆ

  1. Dual Phase Cleansing

ลักษณะคลีนซิ่งจะเป็นแบบแยกออกเป็น 2 ชั้นให้เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือน้ำมันกับน้ำนั่นเองโดยคลีนซิ่งประเภทนี้เหมาะนำไปใช้ล้างเครื่องสำอางที่อยู่บริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก

วิธีใช้ : ก่อนที่จะใช้งานให้พลิกขวดไปมาเพื่อทำให้น้ำกับน้ำมันผสมเข้าด้วยกันแล้วรีบนำไปหยดลงใส่สำลีให้ชุ่มจากนั้นก็นำไปเช็ดที่ใบหน้าสามารถเช็ดซ้ำๆได้บ่อยครั้งจนกว่าเครื่องสำอางจะถูกเช็ดออกหมด

  1. Gel Cleansing (เจลคลีนซิ่ง)​

สำหรับคลีนซิ่งตัวสุดท้ายนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยด้วยตัวเนื้อคลีนซิ่งจะออกใสๆแต่ไม่เหนียวในบางแบรนด์อาจเป็นแบบเนื้อเจลขุ่นๆซึ่งคุณสมบัติของคลีนซิ่งเจลก็หลากหลายไม่เหมือนกันทั้งส่วนผสมและวิธีการใช้งานก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์เช่นเดียวกันอย่างเช่นบางแบรนด์เมื่อเช็ดทำความสะอาดเสร็จแล้วจะไม่ทิ้งคราบมันๆเอาไว้บนผิวหน้าเลยฉะนั้นสาวๆจึงควรอ่านส่วนผสมให้ดีก่อนใช้งานกันนะแอบกระซิบว่าคลีนซิ่งเจลสามารถนำมาใช้ได้กับทั้งคนผิวมัน, ผิวธรรมดาและผิวแพ้ง่ายจร้า

ข้อดี : ส่วนผสมของคลีนซิ่งเจลมักมีมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวผสมเอาไว้ด้วยเวลาใช้แล้วจะช่วยให้ผิวหน้าไม่แห้งตึง

ข้อเสีย : ในทางกลับกันคลีนซิ่งเจลบางแบรนด์อาจมีส่วนผสมของน้ำมันจึงไม่เหมาะกับสาวผิวมันหากไม่อยากเพิ่มความมันให้กับผิวหน้ามากไปกว่าเดิม

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อได้เลย เลือกใช้โทนเนอร์อย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว

 

หลังจากที่เราได้รู้จักประเภทของ Cleansing กันเรียบร้อยแล้วต่อมาเรามาลองดูกันบ้างว่ามีคลีนซิ่งแบรนด์ไหนบ้างที่จัดว่าเป็น 8 คลีนซิ่งตัวดังที่มีคุณสมบัติเรื่องการเช็ดเครื่องสำอางได้อย่างสะอาดหมดจดไม่ทำร้ายผิวหน้าและที่สำคัญช่วยให้ห่างไกลจากสิวมาฝากกันด้วยคร๊า..

คลีนซิ่งมีกี่ประเภท? เลือกยังไงให้ห่างไกลสิว

  1. BiodermaSensibioH2O Solution Micellaire :ราคา 390 บ. (100 ml.), 790 บ. (250 m.)​
  • เริ่มด้วยแบรนด์ชั้นนำส่งตรงมาจากประเทศฝรั่งเศสที่สาวๆหลายคนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีซึ่งคลีนซิ่งตัวนี้มีความอ่อนโยนมากไม่มีส่วนผสมของทั้งน้ำหอมและแอลกอฮอลร่วมอยู่ด้วยทำให้สาวๆสามารถที่จะใช้เช็ดทำความสะอาดได้บริเวณรอบดวงตาและสำหรับคนผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ด้วยส่วนเวลาเช็ดก็แค่เช็ดลงไปเบาๆไม่จำเป็นต้องถูใบหน้าแรงๆไม่ก่อให้เกิดอาการแสบผิวนอกจากนั้นคลีนซิ่งยังทำหน้าที่ปรับสมดุลให้กับผิวช่วยให้ผิวแข็งแรงนุ่มชุ่มชื้นไม่มีสิวอุดตัน
  1. MizuMi Smooth Cleansing Water : ราคา229 บ.(100 ml.), 490 บ.(500 ml.)​
  • หากใครที่กำลังมองหาคลีนซิ่งสูตรที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดแนะนำคลีนซิ่งตัวนี้เลยล่ะทั้งช่วยลดแรงเสียดสีของผิวด้วยDouble Micellar สามารถทำความสะอาดครีมกันแดดและเครื่องสำอางได้อย่างล้ำลึกเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายที่สำคัญสูตรนี้ยังปราศจากน้ำหอมไม่มีพาราเบนไม่มีแอลกอฮอล์และไม่มีส่วนผสมของสารสังเคราะห์ที่สำคัญยังเป็นสูตรOil-Free จึงมั่นใจได้ว่าสาวผิวแพ้ง่ายใช้ได้สบายๆหมดกังวลเรื่องสิวอุดตันไปได้เลยแถมหลังใช้งานใบหน้ายังไม่รู้สึกแห้งตึงเพราะในคลีนซิ่งยังรวมเอาสารสกัดจาก Broccoli, Celery และChicory มาไว้ด้วยกัน
  1. Collection Makeup Remover Cleansing Water :ราคา 299 บท(250 ml.)​
  • ปัจจุบันแบรนด์เครื่องสำอางหลายแบรนด์เริ่มหันมาทำคลีนซิ่งของตัวเองอย่างเช่นคลีนซิ่งตัวนี้ที่ทำขึ้นมาเป็นสูตร Micellar Water ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และไม่มีน้ำหอมจึงเหมาะกับสาวทุกสภาพผิวนอกจากนั้นคุณสมบัติอย่างอื่นทางแบรนด์เค้าก็อัดจัดเต็มไม่แพ้คลีนซิ่งตัวอื่นๆด้วยเช่นกันตัวผลิตภัณฑ์ทำมาในรูปแบบหัวปั้มใช้งานได้ง่ายสามารถเช็ดทำความสะอาดได้อย่างหมดจดแถมขนาดก็คุ้มค่ากับราคาไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
  1. Nivea White Oil Control Make up Clear Micellar Water :ราคา99 บ.(125 ml.)
  • มาถึงแบรนด์ที่สาวๆคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีสำหรับคลีนซิ่งตัวนี้ที่มาในสูตรMicellar Water ซึ่งจัดว่าตอบโจทย์ให้กับสาวๆได้ทุกสภาพผิวยิ่งหากเป็นสาวที่มีสภาพผิวมันหรือผิวผสมบอกเลยว่าเหมาะสมมากๆไม่เพียงเท่านั้นคลีนซิ่งของNivea ยังอุดมไปด้วย L-Carnitineช่วยขจัดความมันส่วนเกินและเซลล์ผิวที่ตายแล้วผนึกเข้ากับAcerola Cherry ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีช่วยทำความสะอาดรองพื้นคราบเครื่องสำอางรวมทั้งสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขนส่งผลให้ผิวแลดูกระจ่างใสชุ่มชื้นจนสัมผัสได้เลยล่ะ
  1. Dove Wipe-off Cleansing Cleansing Micellar Water :ราคา 369 บ. (235 ml.)​
  • คลีนซิ่งแบรนด์ดังที่นำเอาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดTriple-PurifledWater  ผสานคุณค่ากับNutriumMoisture ซึ่งเป็นสูตรที่มีความอ่อนโยนต่อผิวมากๆช่วยให้ผิวชุ่มชื้นไม่เกิดอาการระคายเคืองที่สำคัญเวลาที่นำมาใช้เช็ดเครื่องสำอางยังออกได้ง่ายดายแม้แต่เครื่องสำอางกันน้ำก็ไม่เป็นปัญหานอกจากนั้นยังปราศจากน้ำหอมไม่มีพาราเบนและแอลกอฮอล์ด้วยนะรับรองได้ว่าใช้แล้วปลอดภัยสุดๆ
  1. Bifesta Cleansing Lotion Sebum :ราคา 390 บ.(300 ml.)​
  • หากไม่พูดถึงคลีนซิ่งชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นอย่างBifestaถือว่าผิดมากๆโดยเฉพาะสูตรนี้ที่เหมาะสำหรับสาวผิวมันและผิวผสมตัวนี้มีส่วนผสมของสารสกัดจากชาเขียวทำให้รูขุมขนกระชับขึ้นมาพร้อมด้วยสารบำรุงHyaluronateเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวไม่ทำให้ผิวแห้งตึงคลีนซิ่งตัวนี้เป็นสูตรOil-Free ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมสีสังเคราะห์และพาราเบนให้ระคายเคืองผิวหน้าแต่อย่างใด
  1. Smooth E Babyface 6 in 1 Acne Clear Makeup Cleansing Water :ราคา 535 บ.( 300ml.)​
  • Smooth E  ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่ออกผลิตภัณฑ์ช่วยแก้สารพัดปัญหาสิวและผิวหน้าโดยเฉพาะคลีนซิ่งDouble Micellar Solution ที่ทั้งอ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพผิวไร้สารที่จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองจากน้ำมัน, แอลกอฮออล์, SLS, สารกันเสียประเภท Paraben และPhenoxyethanolที่ล้วนแล้วแต่ผ่านการรับรองทางการแพทย์มาแล้วจึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยสุดๆนอกจากนั้นยังผสมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติMangosteen Extract และCentellaAsiaticaExtract ที่มีสรรพคุณเรื่องลดเลือนริ้วรอยรอยดำหรือรอยแดงจากสิว
  1. HunbukCleansing Water Natural Make up Remove :ราคา 389 บ. ( 150 ml.)​
  • มาถึงคลีนซิ่งตัวสุดท้ายที่เป็นสูตรอ่อนโยนมากๆสามารถนำไปใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้แต่สาวๆที่มีผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้เช่นกันข้อดีของคลีนซิ่งตัวนี้คือไม่แสบตาปราศจากแอลกอฮอล์และยังมีกลิ่นหอมธรรมชาติอ่อนๆแถมบำรุงผิวหน้าของสาวๆให้ชุ่มชื้นขึ้น

จบไปแล้วกับ 8 สุดยอดคลีนซิ่งสาวๆอยากทดลองใช้ตัวไหนก็ลองเลือกซื้อกันได้เลยแต่นอกเหนือจากนั้นอย่าลืมขั้นตอนในการทำความสะอาดผิวหน้าถือได้ว่าเป็นจุดที่สำคัญมากๆเพราะถึงคลีนซิ่งจะดีแค่ไหนแต่ไม่หมั่นดูแลความสะอาดใบหน้าไว้เสมอก็อาจจะช่วยไม่ได้คะ