ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล เกิดจากอะไร รักษาได้อย่างไรบ้าง ?

1661 0

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล เป็นปัญหาที่หลายคนพบเจอ ภาวะนี้อาจมีตั้งแต่การระคายเคืองเล็กน้อยแตกเป็นขุย ไปจนถึงมีอาการเจ็บแสบเป็นแผลที่รุนแรงได้ ในบางกรณีความแห้งของริมฝีปากอาจเกิดจากปัจจัยทางกายภาพหรือสิ่งแวดล้อม เช่น สภาพอากาศหนาว แห้ง การสัมผัสกับลมและอุณหภูมิที่เย็นจัด ภาวะขาดน้ำ ขาดวิตามินโดยเฉพาะวิตามินซี หรืออาการแพ้ 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีอื่น ๆ สาเหตุอาจเกี่ยวข้องกับการเกิดแผลเป็น เพราะริมฝีปากไม่มีต่อมไขมันที่สร้างน้ำมันให้ความชุ่มชื้นเหมือนผิวหนัง นอกจากนี้การเลียริมฝีปากบ่อย ๆ และการใช้ยาบางชนิดก็อาจทำให้ปากแตกได้เช่นกัน แม้ว่าอาการริมฝีปากแตกจะเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป แต่ในกรณีที่มีอาการรุนแรงมากก็อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อจนริมฝีปากอักเสบได้ด้วย


สาเหตุที่ทำให้ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

โดยทั่วไป ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล อาการดังกล่าวอาจมีสาเหตุมาจากสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีความชื้นต่ำและสภาพอากาศแห้ง การเลียริมฝีปากบ่อย ๆ ภาวะขาดสารอาหาร และการใช้ยาบางชนิด จึงทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ได้ เช่น ริมฝีปากแห้ง ริมฝีปากแตกเป็นขุย หรือเป็นสะเก็ด และมีอาการเจ็บ แสบ บวม หรือมีเลือดออกร่วมด้วยบริเวณริมฝีปากที่แตกมาก รวมถึงการดื่มน้ำน้อย หรือผิวที่ขาดคอลลาเจนก็ทำให้ร่างกายขาดความชุ่มชื้น เป็นสาเหตุทำให้ปากแห้งได้เช่นกัน

จะเห็นได้ว่าสาเหตุที่ทำให้ ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล ก็มีสาเหตุหลากหลายประการ ยิ่งริมฝีปากเป็นอีกอวัยวะหนึ่งที่บอบบาง เมื่อเซลล์ผิวถูกทำลายบริเวณนั้นจะเป็นแผลเห็นได้ชัดกว่าปกติ หากมีอาการปากแตกรุนแรงหรือไม่ดีขึ้นหลังพยายามดูแลรักษาแล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย เพื่อหาสาเหตุ และตรวจริมฝีปากของผู้ป่วย ประเมินอาการที่ปรากฏ เพราะอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา เป็นต้น

 


 

วิธีแก้ริมฝีปากแห้งแตก

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

สำหรับคนที่ริมฝีปากแห้งและมีอาการไม่รุนแรง สามารถดูแลรักษาและบำรุงรักษาได้ด้วยตัวเอง โดยขั้นตอนแรกในการรักษาความแห้งและแตกของริมฝีปาก นั่นคือการป้องกันไม่ให้ริมฝีปากของคุณเสียหายมากขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องปกป้องริมฝีปากจากสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น ลมและอุณหภูมิที่เย็นจัด นอกจากนี้ การรักษาความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากด้วยลิปบาล์มหรือครีมเพิ่มความชุ่มชื้นจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นในบริเวณนั้นและป้องกันไม่ให้ปากแห้งไปมากกว่านี้ ถ้าคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคภูมิแพ้หรือมีความไวต่อส่วนผสมบางอย่างในเครื่องสำอางหรืออาหาร ควรระบุสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบเหล่านี้

หากรู้สึกว่า ริมฝีปากแห้งแตก ยังมีอีกหลายวิธีการรักษาหลายอย่างที่สามารถช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบายปากและช่วยบำรุงริมฝีปากให้กลับมาดูชุ่มชื้นได้ด้วย เช่น

  • การสครับริมฝีปาก เป็นการช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากริมฝีปากอย่างอ่อนโยนด้วยแปรงขนอ่อนหรือน้ำตาลแล้วเช็ดออกด้วยผ้านุ่ม ๆ ซึ่งจะช่วยลดความแห้งกร้านและปากลอกเป็นขุย แต่อย่าลืมบำรุงด้วยลิปบาล์มหลังสครับเสร็จด้วย
  • การทาลิปบาล์มหรือที่ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียมที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น หมั่นทาเป็นประจำตลอดทั้งวันจะช่วยให้ริมฝีปากดูชุ่มชื้นและป้องกันไม่ให้แห้งต่อไป
  • ส่วนผสมอย่างเจลว่านหางจระเข้ น้ำผึ้ง น้ำมันวิตามินอี น้ำมันทีทรี ฯลฯ มีประโยชน์ในการรักษาริมฝีปากที่แห้ง เนื่องจากมีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากได้ดี
  • การทาลิปสติกสามารถช่วยปกปิดการเปลี่ยนสีที่เกิดจากรอยแผลเป็น แต่ควรใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น เพราะอาจทำให้บริเวณริมฝีปากที่บอบบางเกิดการระคายเคืองได้
  • การป้องกันแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากรังสียูวีสามารถทำลายผิวหนังที่บอบบางรอบริมฝีปากของคุณ ทำให้ผิวแห้งและแตกมากขึ้น
  • ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ริมฝีปากแห้งแตก

ปัญหาของริมฝีปากก็ไม่แตกต่างจากการดูแลบำรุงผิวพรรณส่วนอื่นของร่างกาย และสิ่งที่ก่อความกังวลมากที่สุดก็คือ ริมฝีปากแห้งและแตกหรือลอกเป็นขุย นอกจากการดูแลรักษาเหล่านี้แล้ว หากคุณมีอาการปากแห้งและแตกเป็นซ้ำบ่อย ๆ รักษาไม่หายขาด แม้จะพยายามรักษาที่บ้านเพื่อบรรเทาอาการแล้วก็ตาม บางกรณีที่ปากแตกและอาจมีการติดเชื้อไวรัส แพทย์อาจสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะหรือยาต้านเชื้อราในรูปแบบครีม ซึ่งผู้ป่วยควรใช้ยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด

 


 

ดูแลตัวเองอย่างไรไม่ให้ริมฝีปากแห้งแตก

การดูแลริมฝีปากเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงความแห้งแตกและปัญหาอื่น ๆ ผิวบริเวณริมฝีปากนั้นบอบบางและต้องการการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการที่จะช่วยให้ริมฝีปากของคุณมีสุขภาพดี ไม่แห้งแตก และชุ่มชื้นอยู่เสมอ

  1. บำรุงให้ความชุ่มชื้นเป็นประจำ

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

สิ่งสำคัญเพื่อให้ริมฝีปากของคุณชุ่มชื้นเพื่อป้องกันไม่ให้แห้งและแตก การใช้ลิปบาล์มหรือปิโตรเลียมเจลลี่ หรือมีส่วนผสมของวิตามิน หรือ ไฮยาลูรอน สามารถช่วยให้ริมฝีปากของคุณได้รับความชุ่มชื้นตามที่ต้องการ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือสารกันเสีย เนื่องจากสารเคมีอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ทาซ้ำเป็นประจำตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหารหรือดื่ม

  1. หลีกเลี่ยงแสงแดดมากเกินไป

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

แสงแดดมากเกินไปอาจทำให้ริมฝีปากแห้งและแตกได้ เมื่อคุณอยู่กลางแจ้งให้ทาลิปบาล์มที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไปเพื่อป้องกันรังสียูวีจากแสงแดด อย่าลืมทาซ้ำบ่อย ๆ หากคุณเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ

  1. ใช้เครื่องทำความชื้น

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

อากาศแห้งจะทำให้ริมฝีปากของคุณแห้งได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำให้อากาศในบ้านมีความชื้นอยู่เสมอ ช่วยรักษาระดับความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวและริมฝีปาก ลดความแห้งกร้านและ ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

  1. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปาก

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

ผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปากบางชนิด เช่น ลิปสติก ที่มีส่วนผสมสารก่อระคายเคือง ซึ่งอาจรุนแรงเกินไปกับผิวริมฝีปากที่บอบบาง และทำให้มีแนวโน้มที่จะแห้งและแตกได้ง่าย เลือกสูตรอ่อนโยนที่มีส่วนผสมบำรุงผิว เช่น เชียบัตเตอร์หรือโจโจบาออยล์แทน

  1. อย่าเลียริมฝีปาก

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

เมื่อรู้สึกว่าริมฝีปากของคุณมีอาการแห้งหรือแตก แต่การเลียริมฝีปากมีแต่จะทำให้แย่ลง ผิวหนังที่บอบบางบริเวณริมฝีปากขาดน้ำ ทำให้เกิดการแตกและลอกเป็นขุยมากยิ่งขึ้น

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ร่างกายของคุณชุ่มชื้นทุกส่วนรวมถึงริมฝีปากด้วย! ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รับน้ำเพียงพอตลอดทั้งวัน เพื่อให้ริมฝีปากดูสุขภาพดีและอ่อนนุ่มขึ้น

  1. เลือกยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

หลีกเลี่ยงการใช้ยาสีฟันที่มีฟองมาก หรือน้ำยาบ้วนปากที่มีรสเผ็ด เพราะอาจมีส่วนผสมที่ทำให้ริมฝีปากแพ้ได้ง่าย ลองเปลี่ยนยาสีฟันมาเป็นยี่ห้อที่มีฟองน้อยและเผ็ดน้อย หรือใช้ยาสีฟันเด็ก หรืออาจใช้วิธีทาวาสลีนหรือเบบี้ออยเคลือบริมฝีปากก่อนแปรง

  1. หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดหรือเค็มจัด 

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

การรับประทานอาหารเผ็ดจัดหรือเค็มจัดเป็นประจำจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากอาหารรสเผ็ดหรือเค็มจัดมีฤทธิ์ขับน้ำออกจากร่างกาย ให้เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 

  1. ลดหรือหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

เริ่มต้นดูแลตัวเองด้วยการเลิกสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว ยังทำให้ริมฝีปากดูดีขึ้นได้จริง เพราะอาการปากแตกหรือลอกเป็นขุย ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันด้วย

  1. บำรุงริมฝีปากด้วยน้ำผึ้ง 

ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล

น้ำผึ้ง มีสรรพคุณช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคอ่อน ๆ อีกทั้งยังช่วยสมานแผลได้ โดยนำน้ำผึ้งมาทาที่ริมฝีปากทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นเช็ดออกให้สะอาด


เพียงทำตามขั้นตอนง่าย ๆ เหล่านี้ คุณก็สามารถช่วยดูแลตัวเองไม่ให้ ริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผล ได้! การรักษาความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากของคุณ การปกป้องจากแสงแดด การหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์กัดกร่อนและการเลีย การใช้เครื่องเพิ่มความชื้น และการทาบำรุงริมฝีปากล้วนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มและดูสุขภาพดีตลอดทั้งปี!


โดยรวมแล้ว ความแห้งกร้านและรอยแตกที่เกิดขึ้นบริเวณริมฝีปากจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นอีกเมื่อเวลาผ่านไป ขณะเดียวกันในช่วงเวลาที่มีปัญหาเนื่องจากผิวบริเวณรอบปากของคุณระคายเคือง และพบว่าการเยียวยาดูแลด้วยตัวเองที่บ้านไม่เพียงพอ ไม่สามารถบรรเทาอาการได้ อาจจะพิจารณาขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสามารถประเมินสาเหตุของคุณได้ดีขึ้น ให้คำแนะนำแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการรักษาเป็นกรณี ๆ ไป

 


 

อ้างอิง