หน้าโทรมทำไง ดีเคล็ดลับเปลี่ยนหน้าโทรมเป็นหน้าสวยภายในพริบตา
หน้าโทรมทำไง เนื่องด้วยสภาพสังคมในปัจจุบันสาวๆหลายคนจึงจำเป็นต้องออกไปทำงานนอกบ้านซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องไปเผชิญกับอากาศที่เต็มไปด้วยมลภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษไหนจะอาหารการกินหรือสภาวะทางอารมณ์ต่างๆล้วนส่งผลต่อผิวหน้าของเราทำให้ใบหน้าดูโทรมไม่สดใสหมองคล้ำจนแทบไม่อยากออกจากบ้านเลยทีเดียวแล้วเมื่อหน้าโทรมจะทำไงดีไม่ต้องกังวลไปเพราะเรามีวิธีแก้ปัญหาหน้าโทรมที่ทำได้ไม่ยากพร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้สาวๆกลับมาสดใสเปล่งปลั่งอีกครั้งเพียงแค่สาวๆต้องหันมาใสใจสุขภาพของตัวเองให้มากขึ้นพร้อมลดละเลิกพฤติกรรมต่างๆที่ส่งผลต่อปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าดูโทรมลงส่วนจะมีวิธีอะไรบ้างนั้นมาลองดูกันดีกว่าคะ
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ สิวอุดตันเกิดจากสาเหตุอะไร
- เลิกนอนดึกพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
เชื่อได้ว่าสาวๆบางคนก่อนนอนคงอดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมาส่องดู Facebook, IG ส่วนตัวหรือดูซีรียส์เรื่องโปรดจนเผลอไผลไปจนถึงดึกดื่นค่อนคืนกลายเป็นคนนอนดึกเกินเวลาที่ร่างกายควรพักผ่อนฉะนั้นถ้าไม่อยากหน้าโทรมสาวๆจะต้องเลิกการกระทำเหล่านี้แล้วแบ่งเวลามานอนหลับพักผ่อนให้ครบ 8 ชั่วโมงต่อวันและต้องนอนหลับให้สนิทตลอดทั้งคืนด้วยเพราะว่าการที่ร่างกายได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ร่างกายก็จะทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอช่วยให้ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยใบหน้าที่สดใสและร่างกายแข็งแรงอีกด้วยล่ะคะ
- ใช้มะเขือเทศพอกหน้า
มะเขือเทศขึ้นชื่อเรื่องมีประโยชน์ต่อการบำรุงผิวพรรณมากฉะนั้นสาวๆที่อยากได้ผิวเนียนใสจึงมักนิยมรับประทานมะเขือเทศกันแบบสดๆแต่ในสูตรนี้เราไม่ได้แนะนำให้นำมารับประทานแต่เป็นการนำเอามะเขือเทศมาช่วยแก้ปัญหาหน้าโทรมด้วยการใช้มะเขือเทศสดๆมาฝานให้เป็นแผ่นบางๆแล้ววางลงไปบนใบหน้าให้ทั่วหรือคุณจะเปลี่ยนเป็นเอามะเขือเทศไปปั่นในเครื่องให้ละเอียดแล้วจึงนำมาพอกหน้าผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่แตกต่างกันโดยให้พอกทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีจากนั้นก็ค่อยล้างออกรับรองได้ว่าผิวหน้าของสาวๆจะกระชับสดใสขึ้นมาในทันทีเลยจร้า
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
ทราบหรือไม่ว่าในร่างกายของเรามีน้ำเป็นองค์ประกอบมากกว่าครึ่งเมื่อไหร่ที่เราขาดน้ำก็จะส่งผลต่อผิวพรรณทำให้เหี่ยวย่นหมองคล้ำฉะนั้นน้ำจึงถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อร่างกายสาวๆจึงควรดื่มน้ำให้มากๆซึ่งก็คือต้องดื่มให้ได้วันละ8-12 แก้วขึ้นไปและไม่ควรอดน้ำหรือดื่มน้ำในปริมาณน้อยเกินไปเพราะเมื่อไหร่ที่ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอก็จะช่วยให้ผิวหน้าของสาวๆสดชื่นดูมีน้ำมีนวลเปล่งปลั่งขึ้นนั่นเอง
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้วยังทำให้ผิวหน้าโทรมๆของสาวๆกลับมาสดชื่นสดใสขึ้นอีกครั้งเพราะเมื่อเหงื่อของเราออกเยอะๆร่างกายก็จะกระปรี้กระเปร่ากระฉับกระเฉงส่งผลต่อระบบการไหลเวียนโลหิตให้ทำงานได้อย่างดีนอกจากนั้นเหงื่อที่ถูกขับออกมาก็จะช่วยขับถ่ายพวกของเสียให้ออกจากร่างกายตามรูขุมขนรวมทั้งผิวหน้าก็จะดูใสขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
- โยเกิรต์สารพัดประโยชน์
นอกจากการรับประทานโยเกิรต์เพื่อบำรุงสุขภาพแล้วยังสามารถนำมาพอกหน้าเพื่อกู้ผิวหน้าที่โทรมหมองคล้ำให้กลับมาสดใสขึ้นอีกครั้งด้วยการนำเอาโยเกิรต์รสธรรมชาติที่แช่เย็นเอาไว้แล้วมาพอกลงไปให้ทั่วใบหน้าแช่ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วค่อยล้างออกซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผิวหน้าของสาวๆดูเนียนใสและอ่อนนุ่มจนสัมผัสได้อย่างชัดเจน
- การแต่งหน้าช่วยได้ทุกอย่าง
การแต่งหน้าในรูปแบบที่หลากหลายก็สามารถช่วยทำให้ใบหน้าโทรมๆกลับมาสดใสดูมีชีวิตชีวาไม่ต่างกับวัยเด็กได้โดยเทคนิคก็คือเลือกสีปัดแก้มที่ดูมีสีสันปัดลงไปให้เห็นเด่นชัด, กรีดอายไลน์เนอร์ตรงบริเวณขนตาด้านบนและเปลี่ยนทรงผมจากปล่อยยาวมามัดเป็นทรงหางม้าซึ่งการปรับเล็กๆน้อยๆนี้จะเพิ่มมุมมองให้สาวๆดูดีขึ้นแบบง่ายๆ
- ประคบเย็น
กู้หน้าโทรมแบบง่ายแสนง่ายคือแค่นำผ้าขนหนูมาชุบน้ำเย็นประคบลงไปทั่วใบหน้าจากนั้นก็ปล่อยทิ้งเอาไว้สักพักหรือจะใช้เป็นแผ่นมาร์คหน้าไปแช่ให้เย็นแล้วนำมามาร์คหน้าแช่ไว้สักครู่หากกว่าสาวๆไม่มีเวลาจริงๆก็ให้ใช้วิธีล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหรือจะเช็ดหน้าด้วยน้ำเย็นก็ได้เท่านี้ก็สามารถแก้ปัญหาหน้าโทรมแล้วยังช่วยให้ผิวหน้ากลับมาสดใสเด้งกระชับแถมน้ำเย็นก็มีส่วนช่วยกระชับรูขุมขนให้ด้วย
- แตงกวาสดก็ช่วยได้
วิธีนี้เรียกว่าเป็นการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าแบบธรรมชาติโดยใช้แตงกวาสดๆมาเป็นพระเอกในครั้งนี้ด้วยการนำมาฝานให้เป็นแผ่นบางๆหลังจากนั้นก็เอาไปแปะให้ทั่วใบหน้าของสาวๆได้ทันทีเพียงแค่นี้ผิวหน้าก็จะเริ่มกลับมาชุ่มชื้นเปล่งปลั่งแลดูมีชีวิตชีวาเมื่อสาวๆแรกแย้ม
- เลิกดื่มเลิกเที่ยวกลางคืน
สาวๆบางคนอาจจะชอบไปสังสรรเที่ยวกลางคืนและอดไม่ได้ที่จะดื่มหนักอยู่เป็นประจำซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบให้ใบหน้าของสาวๆดูโทรมลงอย่างเห็นได้ชัดอย่างรวดเร็วเพราะร่างกายจะพักผ่อนไม่เพียงพอรวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เองก็ยังทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมไม่แข็งแรงอีกด้วยดังนั้นควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลิกเที่ยวเลิกดื่มและเลิกสูบบุหรี่รับรองว่าสาวๆจะพบว่าผิวหน้าดูดีขึ้นไม่เพียงแค่นั้นสุขภาพร่างกายก็จะดีมากขึ้นกว่าเดิม
- ลองมาสครับหน้าดูบ้าง
การสครับหน้าถือได้ว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้โลหิตบริเวณผิวหน้าไหลเวียนได้ดีและเซลล์ของผิวหน้าเองก็จะเกิดการตื่นตัวพร้อมผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไปเผยผิวใหม่แลดูกระจ่างใสขึ้นซึ่งตัวสครับก็หาซื้อได้ไม่ยากสามารถซื้อได้จากร้านขายเครื่องสำอางทั่วไปหรือจะเลือกใช้สครับแบบธรรมชาติเช่นกากกาแฟมาขัดใบหน้าก็ได้ผลดีไม่ต่างกับสครับผิวยี่ห้อดังๆเช่นกัน
- เพิ่มมอยส์เจอไรเซอร์
บางครั้งการใช้น้ำเย็นก็อาจไม่เพียงพอต่อการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าแนะนำว่าควรเพิ่มมอยส์เจอไรเซอร์ด้วยการเลือกทาครีมที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาหน้าโทรมและยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างยอดเยี่ยมไวมากขึ้น
- กินอาหารเสริมเป็นตัวช่วย
ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าในตลาดด้านความสวยความงามจะมีอาหารเสริมที่ช่วยเรื่องของผิวพรรณอยู่มากมายสาวๆอาจจะลองเลือกยี่ห้อยอดนิยมที่มีคนรีวิวมากๆมาลองทานดูก็ได้ซึ่งสรรพคุณของอาหารเสริมจะเข้าไปช่วยให้ผิวหน้ากระชับขึ้นแถมผิวพรรณแลดูกระจ่างใสอย่างสัมผัสได้อย่างชัดเจนแต่เวลาที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ควรศึกษารายละเอียดให้ดีๆก่อนเพื่อความปลอดภัย
- ใช้ไข่ขาวกระชับผิวหน้า
มาถึงวิธีสุดท้ายในการแก้ปัญหาหน้าโทรมแบบธรรมชาติสุดๆด้วยการนำไข่ไก่มา1 ฟองแยกเอาไข่แดงออกหลังจากนั้นก็ใช้ไข่ขาวมาทาลงไปให้ทั่วใบหน้าปล่อยแช่ไว้ให้แห้งค่อยใช้น้ำอุ่นล้างออกหรือจะใช้น้ำมะนาวเข้ามาผสมเพิ่มเพื่อช่วยให้ใบหน้าขาวขึ้นทำแบบนี้ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ผิวหน้าของสาวๆก็จะยิ่งกระชับมากขึ้นกว่าเดิม
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ เลือกใช้โทนเนอร์อย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว
คราวนี้สาวๆคงรู้แล้วว่าวิธีแก้ปัญหาหน้าโทรมให้กลับมาสดใสอีกครั้งควรต้องทำอย่างไรกันบ้างซึ่งวิธีทั้งหมดนี้อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะเห็นผลแต่ถ้าหากอยากให้เห็นผลเร็วขึ้นอาจจะต้องพึ่งตัวช่วยดีๆที่พร้อมจะช่วยสาวๆที่ไม่ว่าจะนอนดึกดื่นหรือทำกิจกรรมหนักแค่ไหนหน้าก็ไม่โทรมแถมยังทำให้ผิวขาวใสแลดูสุขภาพดีอีกด้วยส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นมาชมกันดีกว่าคะ
- Evening primrose oil
สำหรับวิตามินตัวนี้เป็นสารสกัดที่ได้จากเมล็ดดอกอีฟนิ่งพริมโรสมีสรรพคุณในการบำรุงผิวพรรณให้ดูเนียนนุ่มชุ่มชื้นเชิญชวนให้น่าสัมผัสสุดๆสาวๆคนไหนที่มีอาการปวดประจำเดือนอยู่เป็นประจำวิตามินตัวนี้สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้เพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงแถมยังช่วยบำรุงผมผิวเเล็บและลดอาการปวดข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้อีกด้วยเรียกได้ว่าวิตามินตัวนี้ช่วยทั้งเรื่องสุขภาพและผิวพรรณในขวดเดียวกัน
- Co enzymeQ10
วิตามินตัวนี้อัดแน่นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระโคเอ็นไซม์คิวเท็นสามารถเข้าไปช่วยยับยั้งป้องกันไม่ให้คลอเลสเตอรอลจับตัวเป็นก้อนซึ่งเป็นสาเหตุให้เข้าไปอุดตันเส้นเลือดและนอกจากนั้นการรับประทาน Q10 อยู่เป็นประจำยังช่วยลดอาการความดันโลหิตสูงให้ดีขึ้นส่วนเรื่องของผิวพรรณมีประโยชน์ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนังและลดริ้วรอยช่วยให้หน้าใสไม่โทรมและไม่หมองคล้ำ
- Grape Seed
สาวๆคนไหนกำลังมองหาวิตามินที่สกัดจากเมล็ดองุ่นที่มีสารต้านอนุมูลอิสระฤทธ์แรงๆชนิดที่เรียกว่า“Super Antioxidant”บอกเลยว่าวิตามินตัวนี้สามารถตอบโจทย์ให้กับสาวๆได้ดีเป็นอย่างมีคุณสมบัติกำจัดอนุมูลอิสระแรงกว่าวิตามินซีมากถึง 20 เท่าและยังแรงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่าด้วยกันนอกจากนั้นยังมีความพิเศษสามาระจับอนุมูลอิสระได้ทั้งตัวที่ละลายน้ำมันและน้ำจึงเป็นที่นิยมมากในเรื่องการนำมาใช้เพื่อบำรุงผิวพรรณรวมทั้งเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้อย่างยอดเยี่ยม
- สังกะสีหรือZinc
Zinc คือวิตามินตัวสำคัญในการสร้างโปรตีนและคอลลาเจนรวมทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทสที่มีสรรพคุณสำคัญในเรื่องช่วยรักษาสิวและบรรเทาอาการอักเสบของสิวพร้อมปรับสมดุลของปริมาณไขมันใต้ผิวหนังทำให้ไม่เกิดการอุดตันจึงมีประสิทธิภาพในการควบคุมปัญหาการเกิดสิวอุดตันเรียกได้ว่าครบครันเรื่องแก้ปัญหาสิวเลยทีเดียว
- วิตามินซี
วิตามินตัวสุดท้ายที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีผิวส่งผลให้ผิวกระจ่างใสขึ้นและยังช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนเพื่อนำไปซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกายทำให้แผลแห้งหายเร็วขึ้นและข้อดีของวิตามินซีคือสามารถละลายน้ำได้จึงไม่มีสารตกค้างในร่างกายซึ่งในปัจจุบันมีวิตามินซีจำหน่ายอยู่หลายยี่ห้อหลายขนาดให้เลือกซื้อมารับประทานกันแต่อย่าลืมศึกษาฉลากประกอบขวดวิตามินให้ละอียดก่อนทุกครั้งที่จะเลือกซื้อด้วยล่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีแก้ปัญหาหน้าโทรมและวิตามินช่วยให้ผิวสวยสุขภาพดีที่เรานำมาฝากกันแนะนำว่าควรเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ก่อนที่จะเจอกับปัญหาเพราะจะทำให้แก้ไขได้ยากจนสายเกินแก้หรือถ้าปล่อยปละละเลยจนแย่แน่นอนว่าคงจะแก้ไม่ทันเลยล่ะคะ