เรื่องควรรู้ก่อนใช้ ครีมกันแดด
ในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่าภูมิอากาศบ้านเรานับวันยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะแสงแดดที่ร้อนแรงพร้อมทำลายผิวของสาวๆทำให้เกิดผิวไหม้ดำเกิดฝ้ากระรอยเหี่ยวย่นที่สำคัญยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วยบอกเลยว่าน่ากลัวแบบสุดๆกว่าสาวๆจะออกจากบ้านได้ทีแทบจะห่อตัวเดินกันเลยทีเดียวไม่ว่าจะหมวกร่มต้องพร้อมและขาดไม่ได้คือครีมกันแดดแต่!! สาวๆจะมั่นใจได้ไงว่าครีมกันแดดที่ใช้อยู่ทุกวันเหมาะสมเพียงพอแล้วหรือยัง?วันนี้เรามีวิธีเลือก ครีมกันแดด มาฝากกกัน
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย เคล็ด(ไม่ลับ) การเลือกรองพื้นอย่างไรให้หน้าไม่ลอย
ครีมกันแดด มีวิธีการทำงานอย่างไร
ส่วนผสมที่อยู่ในครีมกันแดดนั่นเองที่มีหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสี UVโดยการดูดซับรังสี,ป้องกันไม่ให้รังสีกระทบกับชั้นผิวแบบตรงๆฉะนั้นครีมกันแดดที่ยอดเยี่ยมแบบสุดๆก็ต้องเป็นครีมกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UVได้ดีซึ่งรังสี UV ยังแบ่งออกเป็น
- รังสีUV-A คือรังสีที่ทำให้ผิวแก่กว่าวัยใบหน้าหมองคล้ำเมื่อเวลาสาวๆไปเที่ยวทะเลแล้วผิวคล้ำลงก็เพราะรังสีตัวนี้แหล่ะจร้า
- รังสี UV-B Burning คือรังสีที่ทำให้ผิวเกรียมแดดสาวๆที่ชอบอาบแดดเพื่อเปลี่ยนสีผิวก็เพราะรังสีUV-B นั่นเอง
SPF คืออะไรแล้วทำหน้าที่อย่างไร??
SPF หรือที่เรียกันว่าSun Protection Factor ซึ่งก็คือตัวเลขที่บ่งบอกความสามารถในการปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดเผาไหม้ได้เป็นระยะเวลานานเท่าไหร่เช่นสาวๆออกไปผจญกับแสงแดดโดยไม่ได้ทาครีมกันแดดแล้วผิวเกิดการเผาไหม้ภายใน 20 นาทีแล้วหากทาครีมกันแดดตัว SPF 15 จะช่วยปกป้องแสงแดดไม่ให้ทำลายผิวใช้เวลาเป็น 15 เท่าของ 20 นาทีหรืออยู่ที่ประมาณ300นาที (5 ชั่วโมง) แสงแดดถึงจะสามารถไหม้ชั้นผิวได้
แต่ทว่าค่า SPF สูงๆก็ไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าจะปกป้องแสงแดดได้ดีกว่าตัวที่มีค่า SPF ต่ำๆเพราะแท้จริงแล้วยิ่งค่า SPF สูงๆจะยิ่งทำปฎิกิริยากับผิวก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิวโดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่ายและยังเกิดผลข้างเคียงอื่นๆได้เช่นผดผื่นคันสีผิวไม่สม่ำเสมอเป็นต้น
ค่า PA คืออะไร??
จะเห็นได้ว่าครีมกันแดดที่จำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดจะมีส่วนผสมของ UVA Filter และค่าที่วัดการป้องกันรังสี UVAที่เรียกว่าPA ย่อมาจาก Protection Grade of UVA ซึ่งยังไม่มีหน่วยวัดที่กำหนดเป็นมาตรฐานชัดเจนในการวัดค่าดูดซับของรังสีUVA จึงนำเอาค่า PA เป็นหน่วยวัดระดับสีนั่นเองโดยค่า PA มี 3 ระดับด้วยกันคือ PA+, PA++ และ PA+++แบ่งออกเป็น
- PA+ เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้ออกแสงแดดเป็นเวลานาน
- PA+++ เหมาะกับผู้ที่มีความต้องการการปกป้องแสงแดดในขั้นสูงสุด
ครีมกันแดดอย่างไรที่เหมาะสมกับสภาพผิว??
ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพดีๆจะต้องเข้ากันได้ดีกับสภาพผิวหน้าเวลาที่ทาลงไปที่ผิวจะไม่เกิดคราบจึงเห็นได้ว่าครีมกันแดดที่วางขายมีอยู่หลากหลายรูปแบบทั้งเนื้อเจลครีมโลชั่นซึ่งแต่ละชนิดจะเหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกันอย่างไรเช่นคนผิวมันควรเลือกแบบที่เป็นเจลหรือโลชั่นจะดีกว่า
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย โลชั่นผิวขาวรวม 10 ยี่ห้อผิวขาวใสไบร์ทขั้นสุด
วิธีเลือกใช้ครีมกันแดด
- ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งต้องทาครีมกันแดดทุกวันไม่เว้นแม้วันที่ฝนตกแดดออกเพราะถึงอย่างไรรังสี UV ก็ผ่านทะลุก้อนเมฆออกมาทำลายผิวของเราได้โดยไม่จำเป็นต้องมีแสงแดดก็ตาม
- เมื่อใช้ครีมกันแดดที่มีอายุเกิน 1 ปีไปแล้วควรเปลี่ยนเป็นหลอดใหม่เพราะปกติครีมกันแดดจะมีอายุการใช้งานได้แค่ 1 ปีเท่านั้นหลังจากการเปิดใช้งาน
- ในวันธรรมดาที่ไม่ต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งมากเท่าไหร่ควรเลือกทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15ก็เพียงพอในทางกลับกันหากวันไหนที่ต้องออกกลางแจ้งทั้งวันก็ควรเลือกใช้ครีมกันแดดท่่มีค่าSPF 30 ขึ้นไป
- เวลาทาครีมกันแดดให้ทาไปแบบจัดเต็มเพียงพอกับขนาดของร่างกายอย่าประหยัดครีมกันแดด (ถ้าเป็นผู้ใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 30 ซีซี) นอกจากนั้นห้ามลืมทาครีมกันแดดในบริเวณที่ถูกแสงแดดได้ง่ายเช่นบริเวณจมูก
- ช่วงเวลาทาครีมกันแดดควรทาทิ้งไว้อย่างน้อย 20-30 นาทีก่อนที่จะออกไปเผชิญกับแสงแดดเพื่อให้เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวและแนะนำว่าหากเป็นไปได้ควรทาซ้ำอีกทุกๆ 90 นาที– 2 ชั่วโมงเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดด
- หากต้องลงน้ำให้เลือกครีมกันแดดชนิดกันน้ำได้โดยสังเกตได้จากฉลากข้างผลิตภัณฑ์ที่เขียนว่า“Waterproof”(ปกป้องผิวได้ประมาณ 80 นาที)และถ้าเขียนไว้ว่า“Water resistant” (ปกป้องผิวได้ประมาณ 40 นาที)และควรเลือกครีมกันแดดชนิดครีมหรือโลชั่นดีกว่าเป็นแบบสเปรย์เพราะจะถูกน้ำชะล้างออกไปได้ง่ายกว่า
ฉะนั้นการเลือกครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญของสาวๆเพราะเลือกครีมกันแดดยี่ห้อดีๆก็จะช่วยปกป้องผิวสวยๆได้วันนี้เราจึงได้รวบรวม 5ครีมกันแดดที่ถูกจัดอันดับได้ว่าเป็นครีมกันแดดขั้นเทพที่มีคุณสมบัติในการควบคุมความมันที่ได้รับความนิยมติดอันดับต้นๆมาเป็นระยะเวลายาวนานเพื่อที่สาวๆจะได้หมดกังวลกับเรื่องแสงแดดส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกัน
- ANESSA Perfect Facial UV Sunscreen SPF50+ PA++++
- ครีมกันแดดสุดฮิตจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมแบบสุดๆทีเด็ดของครีมกันแดดตัวนี้อยู่ที่เทคโนโลยี ` Aqua Booster Technology’เมื่อผิวมันของสาวๆถูกชุ่มไปด้วยน้ำหรือโดนเหงื่อก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องแดดได้ดีขึ้น
- Eucerin Sun Dry Touch Oil Control Face SPF50+ PA+++
- เชื่อได้ว่าแบรนด์นี้ใครๆก็รู้จักเพราะเป็นแบรนด์เวชสำอางที่ขึ้นชื่อว่ามีความอ่อนละมุนปลอดภัยกับผิวดีที่สุดโดยเฉพาะครีมกันแดดตัวนี้ที่มีความพิเศษคือส่วนผสมของคาร์นิทีนถือได้ว่าเป็นเคล็ดลับสำคัญในการป้องกันและลดการเกิดสิวแถมควบคุมความมันได้อย่างยาวนานตัวเนื้อครีมเองก็บางเบาเกลี่ยไปทั่วใบหน้าได้ง่ายไม่ทำให้เกิดสิวอุดตันอย่างแน่นอนเหมาะกับสาวๆที่ผิวบอบบางเพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมสีและพาราเบนอีกด้วย
- Biore UVAqua Rich Water Essence SPF50+ PA+++
- ครีมกันแดดที่ขึ้นชื่อในเรื่องของควมคุมความมันและบางเบาเพราะเนื้อสัมผัสของตัวครีมมีความเป็นน้ำที่มาจากเนื้อเอสเซ้นส์ช่วยให้สาวๆรู้สึกว่าผิวเบาสบายไม่ทำให้ผิวเหนียวเหนอะหนะและยังมีส่วนผสมของสารสกัดที่ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นสาวๆจึงหมดกังวลเมื่อถูกแดดทำร้ายและถูกดึงความชุ่มชื้นออกไปข้อดีที่รับรองว่าสาวๆจะต้องกรี๊ด!!คือสามารถทาทับเมคอัพระหว่างวันได้โดยที่เมคอัพเดิมก็ยังคงอยู่ไม่ถูกลบเลือนออกไป
- Banana Boat Ultra Protect Faces SPF 50 PA+++
- ครีมกันแดดที่เป็นธรรมชาติแบบสุดๆเพราะมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้และวิตามินอีจึงเป็นทั้งตัวบำรุงพร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวแถมยังถนอมผิวให้กับสาวๆด้วยตัวเนื้อครีมไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและยังเป็นกันแดดชนิด Oil-free ที่ไม่ผสมน้ำมันจึงไม่ทำให้ผิวของสาวๆอุดตันเนื้อสัมผัสก็บางเบารู้สึกสบายผิวไม่เพียงเท่านั้นยังเเป็นสูตรกันน้ำสาวๆจึงสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ
- L’OREAL UV Perfect Instant White SPF50+/PA++++
- ตัวเนื้อครีมกันแดดจะเป็นเนื้อเซรั่มสีชมพูประกายมุกจึงเป็นตัวที่ช่วยปรับสภาพผิวให้กับสาวๆอีกทั้งช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสอมชมพูขึ้นทันทีหลังทาโดยเฉพาะสาวๆที่ชอบแต่งหน้าตัวครีมจะปรับสภาพผิวก่อนที่จะลงเมคอัพทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้นและยังทำให้เครื่องสำอางติดทนนานจนสาวๆต้องยกนิ้วให้เลยล่ะ
จบกันไปแล้วกับครีมกันแดดที่ถือได้ว่าเป็นตำนานสุดยอดครีมกันแดดยอดเยี่ยมที่สุดในเรื่องควบคุมความมันซึ่งในแต่ละแบรนด์ก็จะมีสูตรเฉพาะและมีความแตกต่างกันออกไปสาวๆชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามความเหมาะสมของสภาพผิวของตัวเองที่สำคัญต่อให้ครีมกันแดดดีเริ่ดขนาดไหนแต่ถ้าสาวๆไม่ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านก็ไม่มีประโยชน์อะไร