มาส์กหน้าทุกวัน

มาส์กหน้าทุกวัน ทำให้ผิวปังหรือพังกันแน่?

2871 0

มาส์กหน้าทุกวัน ทำให้ผิวปังหรือพังกันแน่?

การดูแลผิวหน้าเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับผู้หญิงและผู้ชายที่ต้องการความสวยและความเป็นเอกลักษณ์ที่ดี และการ มาส์กหน้าทุกวัน เป็นหนึ่งในวิธีการดูแลผิวหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน การมาส์กหน้าสามารถช่วยให้ผิวหน้าของเราดูกระจ่างใสและมีความอ่อนเยาว์มากขึ้น แต่การมาส์กหน้าทุกวันอาจมีผลต่อผิวหน้าของเราได้เช่นกัน ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาพิจารณาข้อดีและข้อเสียของการมาส์กหน้าทุกวัน พร้อมกับวิธีการดูแลผิวหน้าในลักษณะที่ถูกต้อง และคำแนะนำในการดูแลผิวหน้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและไม่ทำให้ผิวหน้าเสียหายในระยะยาว การมาส์กหน้าสามารถช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสได้ ทำให้หลายคนนิยมทำการใช้ทุกวัน จนกลายเป็นกิจวัตร ซึ่งการมาส์กหน้ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย สำหรับใครที่อยากรู้ว่าการ มาส์กหน้าทุกวัน จะทำให้ผิวหน้าปังหรือพังวันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณแล้ว


6 พฤติกรรมการมาส์กหน้าที่ควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่อยากหน้าพัง!

มาส์กหน้าทุกวัน

การมาส์กหน้าหากทำผิดวิธีจะทำให้หน้าพังได้ เพราะปัจจุบันนี้มีมาร์กมีให้เลือกใช้อยู่หลายแบบ ดังนั้นเพื่อความสวยที่แท้จริงคุณจะต้องห้ามทำการมาส์กหน้าแบบนี้เด็ดขาด 

  1. เลือกมาส์กไม่เหมาะกับผิว มาส์กแต่ละชนิดจะมีการออกแบบส่วนผสมให้เหมาะกับสภาพผิวที่ต่างกัน หากเลือกใช้มาส์กที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว นอกจากมาส์กจะไม่ช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้น ยังจะทำให้ผิวหน้าเกิดสิวและการอักเสบได้ ดังนั้นก่อนที่จะนำมาส์กมาใช้ควรเลือกมาส์กที่มีส่วนผสมหรือเลือกเนื้อ เซรั่ม ให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าทุกครั้ง เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงและปรนนิบัติอย่างเหมาะสม
  2. ไม่ล้างหน้าก่อนมาส์ก หลายคนนิยมมาส์กหน้าทันทีโดยไม่ล้างหน้าให้สะอาดก่อน ซึ่งการไม่ล้างหน้าก่อนจะทำให้มีสิ่งสกปรกและมลพิษ เช่น ฝุ่น ควัน เหงื่อ เป็นต้น ตกค้างอยู่บนผิวและรูขุมขน เมื่อทำการมาส์กหน้าก็จะไม่เกิดประโยชน์เพราะสารสกัดที่อยู่ในมาส์กจะซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ยาก ดังนั้นก่อนที่จะทำการมาส์กหน้าทุกครั้งควรล้างหน้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้งเพื่อให้ผิวหน้าพร้อมที่จะดูดซึมสารอาหารจากมาส์กได้อย่างเต็มที่
  3. ใช้มาส์กแบบแช่เย็น หลายคนนิยมนำมาส์กไปแช่นเย็นก่อนที่นำมาใช้ เพราะคิดว่ามาส์กแช่เย็นจะทำให้ผิวหน้าสดชื้น ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วมาส์กแช่เย็นไม่ได้ทำให้ผิวสดชื่น แต่ทำให้มาส์กไม่ได้ผลเต็มที่ เพราะความเย็นจะทำให้รูขุมขนบนใบหน้าเกิดการกระชับและมีขนาดเล็กลง ทำให้สารอาหารที่อยู่ในแผนมาส์กซึมเข้าสู่ผิวได้ยาก ดังนั้นควรใช้มาส์กที่อุณภูมิปกติในการมาส์กหน้าถึงจะดี 
  4. มาส์กหน้านานเกิน การมาส์กหน้ายิ่งนานยิ่งดี ถือเป็นความคิดที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ เพราะการมาส์กหน้านาน ๆ จะทำให้ผิวหน้าสูญเสียความชุ่มชื่นและสารอาหารบนผิวไป เนื่องจากการมาส์กหน้านาน ๆ แผ่นมาส์กจะแห้งและดูดความชื้นกับสารอาหารบนผิวกลับคืนมาทั้งหมด แบบนี้ผิวหน้าจะแห้งยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย
  5. ล้างหน้าหลังมาส์กเสร็จ หลังจากมาส์กเสร็จหน้าเสร็จแล้ว อย่าล้างหน้าเอาเนื้อครีมบนผิวหน้าออกแต่ให้ปล่อยให้เนื้อครีมซึมเข้าผิวไปเหมือนการทาครีมบำรุงผิวได้เลย เพราะเนื้อมาส์กจะประกอบด้วยสารบำรุงผิวแบบเข้มข้นสูง การปล่อยทิ้งไว้จะทำให้สารอาหารซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึกมากยิ่งขึ้น 
  6. ไม่บำรุงผิวหลังมาร์กเสร็จ คงไม่มีมาส์กหน้าตัวไหนที่มีคุณสมบัติแบบครอบจักรวาล ดังนั้นหลังจากมาส์กหน้าเสร็จแล้ว ควรทาครีมบำรุงผิวทุกครั้ง โดยเฉพาะการใช้มาส์กหน้าที่มีส่วนผสมของสาร whitening หรือสารเพิ่มความกระจ่างใสที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน เพราะมาส์กแบบนี้จะเข้าไปกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกและเผยผิวใหม่ที่มีสุขภาพดี เมื่อทาครีมบำรุงผิวทันทีก็จะทำให้ผิวใหม่มีสุขภาพที่แข็งแรงและสดใสเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น

หากต้องการให้มาส์กหน้าเห็นผลชัดเจนแบบหน้าไม่พังแล้ว ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการมาส์กหน้าตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น แล้วมาส์กจะทำให้ผิวหน้าของคุณสดใส เนียนนุ่มแน่นอน


มาส์กหน้าทุกวัน ดีจริงหรือ?

มาส์กหน้าทุกวัน

การมาส์กหน้าคือการบำรุงผิวด้วย ไฮยาลูรอน อย่างล้ำลึก ยิ่งมาส์กหน้าอย่างถูกวิธีจะทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสและดูอ่อนเยาว์ ทำให้หลายคนเลือกที่จะทำการมาส์กหน้าแทนการทาครีมบำรุงผิวหน้า เพราะชอบความรู้สึกในการมาส์กหน้าที่สบายเหมือนได้รับการสปาผิวไปพร้อมกัน 

ซึ่งการมาส์กหน้าทุกวันจะส่งผลดีต่อผิวหน้าก็ต่อเมื่อเป็นการมาส์กที่เลือกใช้เป็นแบบที่ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ เพิ่มความชุ่มชื่น เสริมความแข็งแรงให้กับผิวหน้าหรือ อิมัลชั่น และช่วยเติมสารอาหารให้กับผิว ซึ่งมาส์กแบบนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อผิวหน้า ยิ่งทำการมาส์กบ่อยแค่ไหนก็จะทำให้ผิวหน้ามีความแข็งแรง เต่งตึงมากยิ่งขึ้น สำหรับเวลาในการมาส์กให้ใช้ตามที่ระบุไว้ข้างซองผลิตภัณฑ์ ไม่ควรใช้เวลานานเกินไปหรือปล่อยให้แผนมาส์กแห้งติดหน้าเด็ดขาด การมาส์กหน้าแบบนี้เทียบได้กับการใช้ครีมบำรุงผิวดี ๆ สักตัวเลยทีเดียว 

แต่ถ้าเป็นการมาส์กหน้าที่มีส่วนผสมของสารเพิ่มความขาวหรือสารที่มีฤทธิ์เป็นกรด ไม่ว่าจะเป็นกรดอ่อนจากธรรมชาติหรือสารเคมีสกัดก็ไม่ควรนำมามาส์กหน้าทุกวัน เพราะมาส์กแบบนี้จะเข้าไปกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าเผยผิวใหม่ ทำให้ผิวหน้ามีความกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ซึ่งการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวบ่อย ๆ หรือเป็นประจำทุกวันจะทำให้ผิวการระคายเคืองได้ง่ายและเกิดปัญหาสิวแบบรุนแรงได้ในระยะยาว ดังนั้นจึงไม่ควรใช้มาส์กชนิดนี้มาส์กหน้าทุกวันเด็ดขาด เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ผิวหน้ามีขาวเนียนสวยมีสุขภาพดีแล้ว ยังจะทำให้ผิวหน้างพังได้ 

ดังนั้นหากต้องการมาส์กหน้าทุกวันควรเลือกมาส์กแบบบำรุงผิวเท่านั้น แล้วหน้าของคุณจะปังแบบหยุดไม่อยู่แน่นอน


ข้อดีและข้อเสียของการสมาร์กหน้า

การมาส์กหน้าเป็นการดูแลผิวหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการมาส์กหน้าเพื่อให้ผิวขาวกระจ่างใส แต่การมาส์กหน้ามีข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกใช้ และการมาส์กหน้าทุกวันอาจส่งผลต่อผิวหน้าของคุณได้เช่นเดียวกัน

ข้อดีของการมาส์กหน้า

  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า – การมาส์กหน้าเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูอิ่มน้ำและประกอบไปด้วยสารอาหารที่ดีสำหรับผิวหน้า
  • ช่วยขจัดเซลล์ผิวหน้าที่เสียไป – การมาส์กหน้าสามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวหน้าที่เสียไป ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูสดใสและแม่นยำมากขึ้น
  • เพิ่มความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้า – การมาส์กหน้าช่วยลดเลือนเส้นรอยและเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และมีเนื้อผิวที่กระชับมากขึ้น
  • ช่วยให้ผิวหน้าสดใส – การมาส์กหน้าสามารถช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูสดใสมากขึ้น โดยลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำบนผิวหน้า

ข้อเสียของการมาส์กหน้าทุกวัน

การมาส์กหน้าทุกวันอาจมีข้อเสียบางอย่างที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจใช้วิธีนี้ในการดูแลผิวหน้าของคุณ เรามาดูข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ดังนี้

  • การมาส์กหน้าอย่างหนักหรือใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสมอาจทำให้ผิวหน้าแห้งขึ้น – การมาส์กหน้าอย่างหนักหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมสามารถทำให้ผิวหน้าของคุณแห้งและขาดความชุ่มชื้น ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ผิวหน้าของคุณดูสั้นได้
  • การมาส์กหน้าอย่างมากอาจทำให้เกิดปัญหาแพ้ง่าย – การมาส์กหน้าอย่างมากอาจเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาแพ้ง่ายในผิวหน้าของคุณ ทำให้ผิวหน้าของคุณเกิดผื่นแดงหรือการอักเสบที่ไม่สวยงาม
  • การมาส์กหน้าอย่างบ่อยๆ อาจทำให้เกิดภาวะหน้ามัน – การมาส์กหน้าอย่างบ่อยๆ อาจทำให้เกิดภาวะหน้ามัน (acne) ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณหน้าที่มีต่อมมันส่วนมาก เช่น ในบริเวณหน้าผาก แก้ม และคาง
  • การมาส์กหน้าอย่างบ่อยๆ อาจทำให้ผิวหน้าของคุณเสียหาย – การมาส์กหน้าอย่างบ่อยๆ อาจทำให้ผิวหน้าของคุณเสียหายได้ เช่น การมาส์กหน้าอย่างหนักหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ผิวหน้าของคุณมีการสลายย่อย และเสียความยืดหยุ่น ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าของคุณดูอ่อนเยาว์น้อยลง และเกิดเอียงเป็นสิวและฝ้าดำได้ง่ายขึ้น
  • การมาส์กหน้าอย่างบ่อยๆ อาจทำให้เสียเงินเปล่า – การมาส์กหน้าอย่างบ่อยๆ อาจทำให้คุณต้องใช้เงินเปล่าเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์การดูแลผิวหน้า ซึ่งอาจไม่ได้ผลตอบแทนที่สูงพอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

ดังนั้น การมาส์กหน้าทุกวันมีข้อเสียและข้อดีเป็นสองด้าน การดูแลผิวหน้าที่ดีควรมีการประเมินความเหมาะสมของวิธีการและผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวหน้าอย่างรอบคอบก่อนเลือกใช้ นอกจากนี้ยังควรปฏิบัติการดูแลผิวหน้าตามแนวทางที่ถูกต้องเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการดูแลผิวหน้าในระยะยาว


ในสรุป การมาส์กหน้าเป็นวิธีการดูแลผิวหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน การมาส์กหน้าสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ช่วยลดเลือนเส้นรอย และเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้า ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสได้ อย่างไรก็ตาม การมาส์กหน้าทุกวันอาจมีข้อเสียบางอย่างที่ต้องพิจารณาก่อนใช้วิธีนี้ในการดูแลผิวหน้าของคุณ ดังนั้น การดูแลผิวหน้าที่เหมาะสมควรมีการประเมินความเหมาะสมของวิธีการและผลิตภัณฑ์ และควรปฏิบัติการดูแลผิวหน้าตามแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการดูแลผิวหน้าในระยะยาว ในท้ายที่สุด การมาส์กหน้าทุกวันดีไหม ขึ้นอยู่กับการประเมินของแต่ละบุคคลและวิธีการดูแลผิวหน้าที่เหมาะสมสำหรับคุณเอง

ที่มา