อิมัลชั่น คืออะไรเรื่องที่สาวๆควรรู้

อิมัลชั่น คืออะไรเรื่องที่สาวๆควรรู้

อิมัลชั่น คืออะไร สาวๆเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมปัจจุบันนี้ถึงได้มีสกินแคร์บำรุงผิวออกมาหลายชนิดให้เลือกบำรุงกันมากมายทั้งโทนเนอร์, โลชั่น, ครีม, เซรั่ม,อิมัลชั่นเป็นต้นซึ่งในแต่ละประเภทก็ให้สรรพคุณและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันออกไปทว่าถ้าให้เจียระไนคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์แต่ละตัวทั้งหมดนี้คงยาวเป็นหน้ากระดาษแน่ๆซึ่งในวันนึ้เราจะมาแนะนำตัวบำรุงผิวที่เรียกันว่า“อิมัลชั่น” ให้สาวๆที่ยังไม่รู้จักได้เข้าใจและเลือกใช้ได้อย่างถูกต้องกันคะ

อิมัลชั่น คือหากจะว่ากันไปครีมบำรุงผิวที่สาวๆนำมาใช้บำรุงผิวอยู่ทุกวันนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นอิมัลชั่นได้เหมือนกันแต่ที่เราไม่เรียกเจาะจงว่าเป็นครีมอิมัลชั่นก็เป็นเพราะผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประเภทครีมมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นและหนาชุ่มชื้นมากกว่าหรือหากให้สรุปสั้นๆการที่จะผลิตครีมบำรุงผิวก็ต้องนำอิมัลชั่นชั่นเข้ามาช่วยเพิ่มความเข้มข้นด้วยการเพิ่มนู้นนิดใส่นี่หน่อยเข้าไปซึ่งอิมัลชั่นมีเนื้อบางเบากว่าจึงมีคุณสมบัติเรื่องของการซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็วดีกว่าครีม

อิมัลชั่นถูกผลิตขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ให้กับสาวๆที่มีสภาพผิวแบบกลางๆอาศัยอยู่ในแถบภูมิอากาศที่ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไปต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวรวมทั้งเนื้อไม่บางเบาเท่าเซรั่มและไม่หนักหนาเกินไปเท่าเนื้อครีมซึ่งผลิตภัณฑ์อิมัลชั่นจะผลิตออกมาได้ในรูปแบบเนื้อเจลหรือลักษณะเนื้อกึ่งๆเหลว

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย ไฮยาลูรอน คืออะไร

Emulsion  ( อิมัลชั่น ) ต่อแต่ละประเภทผิว

1. สำหรับคนผิวแห้ง :การเลือกใช้อิมัลชั่นบำรุงตัวเดียวอาจไม่เพียงพอเมื่อเป็นอย่างนั้นจึงควรตรวจดูก่อนว่าอิมัลชั่นที่เราใช้บำรุงผิวอยู่มีส่วนผสมของออยล์ร่วมด้วยหรือไม่หากไม่มีผสมอยู่แนะนำให้ทาครีมบำรุงตัวอื่นบำรุงเพิ่มเข้าไปอีกชั้นเพื่อช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้ตลอดทั้งวันหรือถ้ากังวลว่าทาครีมบำรุงผิวลงไปอีกชั้นจะดูหนักเกินไปก็สามารถเลือกใช้ครีมบำรุงที่เป็นสูตรเนื้อเจลแทนก็ได้เพราะซึมง่ายแถมไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้ที่ผิวให้รำคาญใจ
2. สำหรับคนผิวผสม : และคนที่ผิวเกิดสิวได้ง่ายยิ่งเหมาะกับการใช้อิมัลชั่นแทนครีมเพื่อลดการเกิดน้ำมันและสิวอุดตันชนิดต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในคนที่เกิดสิวได้ง่ายผิวจะตกอยู่ในภาวะอ่อนแอถึงแม้จะไม่สามารถบำรุงผิวได้มากเท่าไหร่แต่สิ่งสำคัญคือต้องหมั่นเติมผิวให้ชุ่มชื้นเป็นประจำเช้า-เย็น
3. สำหรับคนผิวมัน : ต้องบอกก่อนเลยว่าอิมัลชั่นคือตัวเลือกที่เหมาะสมกับคนผิวมันเป็นอย่างมากเพราะความที่เนื้อบางเบา (บางแบรนด์อาจทำเป็นสูตรกึ่งๆเหลว)​จึงช่วยทำให้ผิวดูดซึมได้ง่ายและรวดเร็วกว่าเนื้อครีมยิ่งหากอยู่ในอากาศร้อนชื้นอิมัลชั่นสามารถตอบโจทย์ได้ดีด้วยสรรพคุณของอิมัลชั่นจะเข้าไปบรรเทาความร้อนทำให้ผิวเย็นขึ้นและข้อสำคัญยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวทำให้ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะอีกด้วยฉะนั้นใครที่มีผิวมันสามารถใช้อิมัลชั่นแทนครีมได้เลยไม่ทำให้ผิวมันมากขึ้นเพราะมีส่วนผสมของน้ำมันน้อยกว่ามากแถมยังลดโอกาสของการเกิดสิวอุดตันลงได้อีก
4. สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวมากขึ้นแต่ไม่ชอบทาครีมทับลงไปอีกชั้นก่อนก็สามารถเปลี่ยนมาเลือกใช้อิมัลชั่นที่เป็นเนื้อลักษณะ water-based แล้วนำมาผสมเข้ากับออยล์ต่างๆ ก็จะทำให้ผิวชุ่มชิ้นขึ้นได้อีกด้วย หรือจะลองเลือกใช้อิมัลชั่นที่เนื้อมีความเข้มข้นสูงกว่าปกติก็ได้เหมือนกัน

สรุปการใช้EMULSION

ในความเป็นจริงแล้วอิมัลชั่นสามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นสภาพผิวแบบใดแบบหนึ่งชัดเจนทั้งผิวมันผิวแห้งผิวผสมผิวเป็นสิวหรือผิวขาดน้ำก็ล้วนแล้วแต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเพราะอิมัลชั่นเข้าไปทำหน้าที่ให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น

ความแตกต่างของ Serum, Essence และ Emulsion

อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันผลิตภัณฑ์บำรุงผิวถูกคิดค้นขึ้นมามากมายหลายสูตรเชื่อว่าหลายคนคงจะเริ่มสับสนว่าจะใช้ตัวไหนก่อนดีระหว่างSerum, Essence และ Emulsion จนใช้ผิดใช้ถูกออกจะบ่อยฉะนั้นก่อนอื่นเราจึงควรรู้ก่อนว่าผลิตภัณฑ์แต่ละตัวมีความแตกต่างกันอย่างไรเพื่อที่จะได้เลือกใช้กันได้ถูกจร้า..

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย ริ้วรอยใต้ตา บอกลาได้ด้วย 7 วิธี

Serum คืออะไร??

สาวๆคงจะคุ้นเคยกับเซรั่มมาบ้างแล้วเพราะเซรั่มจัดได้ว่าเป็นตัวบำรุงผิวอีกตัวหนึ่งที่อยู่ในขั้นพื้นฐานของการบำรุงผิวนั่นเองโดยเนื้อผลิตภัณฑ์จะไม่เหนียวเหนอะหนะบางเบาสามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องผิวของสาวๆได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งเซรั่มถูกผลิตขึ้นมาจากสารสกัดบำรุงมากมายมาผสมรวมกันทำให้เข้าไปบำรุงผิวได้ล้ำลึกเวลาทาลงไปบนผิวตัวเนื้อเซรั่มจะเคลือบบางๆอยู่บนผิวหน้าช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระเรียกได้ว่าใสๆแต่สรรพคุณเพียบแถมเนื้อเซรั่มในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลายรูปแบบทั้งแบบน้ำใสๆไปจนถึงเจลเนื้อบางเบาเพียงแค่ใช้วันละหยดก็เห็นผลแล้วล่ะ

Serum ต่างกับ Emulsion อย่างไร

ส่วนตัวอิมัลชั่นมีสัมผัสเนื้อบางเบากว่าครีมหรือโลชั่นทว่าจะหนาและมีสารบำรุงที่น้อยกว่าเซรั่มไม่มากใช้ได้กับทุกสภาพผิวแต่ถ้าจะให้เห็นผลดีแนะนำว่าสาวผิวมันกับสิวผสมจะเหมาะที่สุดด้วยเพราะตัวยาที่อยู่ในอิมัลชั่นมักมีน้ำมาเป็นตัวช่วยเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิวและช่วยให้ผิวได้หายใจอีกด้วยเพียงแค่ทาลงไปเบาๆก่อนจะลงตัวครีมหลักซึ่งตัวเซรั่มกับอิมัลชั่นจึงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่แค่เนื้อสัมผัสเท่านั้นที่ไม่เหมือนกัน

Essence คืออะไร??

เป็นตัวอีกตัวบำรุงผิวมาจากภายในที่สามารถบำรุงได้อย่างล้ำลึกจนถึงชั้นผิวมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูให้ผิวแลดูสุขภาพดีจากภายในเลยทีเดียวมักใช้ส่วนผสมที่มีลักษณะWater-Base จึงทำให้เนื้อสัมผัสบางเบาซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะเหมาะสำหรับสาวๆที่มีอาการแพ้ตัวบำรุงจำพวกน้ำมันถึงแม้ว่าเอสเซนส์จะไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นเท่าไหร่นักแต่เรื่องสรรพคุณในการปรนิบัติผิวก็ไม่น้อยหน้าครีมตัวอื่น

ใช้ Emulsion ตอนไหน??

สำหรับขั้นตอนลำดับของการบำรุงผิวในการเลือกใช้Serum, Essence และ Emulsion นั้นไม่ยากเลยมีเคล็ดลับง่ายๆคือให้เลือกใช้ตัวบำรุงที่มีเนื้อบางเบาที่สุดเสียก่อนแล้วจึงไล่ไปใช้ไปเรื่อยๆจนถึงตัวที่มีเนื้อเข้มข้นหนาแน่นมากที่สุดด้วยการเริ่มจากใช้ Essence ซึ่งเป็นตัวที่มีเนื้อบางเบาลงไปที่ผิวหน้าหลังจากที่ใช้ Toner (หรือใครที่ไม่ใช้ Toner จะเป็น Cleanser แทนก็ได้)​ ต่อจากนั้นก็ลง Serum แล้วขั้นตอนสุดท้ายก็ทา Emulsion อย่าลืมส่วนที่สำคัญคือทุกครั้งที่ทาครีมแต่ละตัวควรใช้เวลาห่างกันเล็กน้อยสักประมาณ 1 นาทีเพื่อให้เนื้อครีมค่อยๆซึมลงเข้าผิวหน้าหรือในบางวันที่ตื่นขึ้นมารู้สึกว่าผิวหน้าดูแห้งๆอาจจะใช้แค่อิมัลชั่นอย่างเดียวแต่ถ้าวันไหนทำงานมาทั้งวันและไม่ค่อยมีเวลาดื่มน้ำผิวหน้าก็จะเหี่ยวแห้งไม่สดชื่นก็สามารถเพิ่มขั้นตอนเสริมอิมัลชั่นแทรกเข้าช่วงกลางระหว่างEssenceและครีมก็ได้เพราะการที่ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นอยู่เป็นประจำทุกวันก็จะส่งผลให้ผิวสุขภาพดีอีกด้วยล่ะคะ