สำหรับผู้ที่รักการรับประทานของหวานแต่กลัวการเพิ่มน้ำหนัก การเลือก ขนมไม่อ้วน เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับขนมอร่อยที่สามารถกินได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกผิด จากเว็บ https://yamyam.in.th/ยาลดน้ำหนักตัวไหนดี/ โดยขนมเหล่านี้ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังช่วยควบคุมน้ำหนักและส่งเสริมสุขภาพที่ดีได้อีกด้วย เพราะการรับประทานอาหารที่สมดุลและมีประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญต่อการดูแลสุขภาพและการรักษาน้ำหนักในระยะยาว ไม่ว่าคุณจะชอบขนมที่มีรสชาติหวาน, อร่อย, หรือกรุบกรอบ นอกจากนี้ ของว่างที่เราแนะนำ ยังทำจากวัตถุดิบที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น ผลไม้สด, ธัญพืชเต็มเมล็ด, และโปรตีนจากพืช ซึ่งจะช่วยเติมเต็มความหิวระหว่างมื้ออาหารและให้พลังงานที่ยั่งยืน คุณจะได้พบกับสูตรขนมที่ง่ายต่อการทำและสามารถปรับเปลี่ยนตามความชอบของแต่ละคนได้ เพื่อให้คุณไม่ต้องเคร่งเครียดกับตัวเองมากเกินไป ลบล้างความเชื่อว่าของหวานทุกอย่างจะต้องแย่กับสุขภาพเสมอไป เพราะในบทความนี้จะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่า การชอบกินขนมหวานไม่ใช้สิ่งที่ผิด ไม่จำเป็นต้องกังวลกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น ไปดูกันได้เลย!
ประโยชน์ของการเลือก ขนมไม่อ้วน
ช่วยควบคุมน้ำหนัก
การเลือกขนมที่มีประโยชน์ ช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากขนมเหล่านี้มักมีแคลอรี่ต่ำกว่าและมีสารอาหารที่จำเป็น ตัวอย่างเช่น ขนมที่ทำจากธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น บาร์ข้าวโอ๊ต หรือถั่วต่างๆ ซึ่งให้โปรตีนและไฟเบอร์สูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานกว่า และลดความหิวระหว่างมื้ออาหาร จากการศึกษาในปี 2015 พบว่าการบริโภคไฟเบอร์ที่เพียงพอสามารถลดความเสี่ยงของโรคอ้วนได้ถึง 22% (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2563) การควบคุมน้ำหนักไม่ได้หมายความว่าเราต้องอดอาหาร แต่คือการเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อร่างกาย
ได้รับประทานอาหารที่สมดุล
การเลือกรับประทานขนมที่มีประโยชน์ ยังช่วยส่งเสริมการรับประทานอาหารที่สมดุล ซึ่งหมายถึงการได้รับสารอาหารครบถ้วนในแต่ละวัน ขนมที่มีประโยชน์มักมีสารอาหารที่หลากหลาย เช่น วิตามิน, แร่ธาตุ, และโปรตีน ตัวอย่างเช่น ขนมจากผลไม้สดที่มีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หรือโยเกิร์ตที่มีโปรตีนและโปรไบโอติกส์ที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร จากการสำรวจพบว่าคนไทยที่รับประทานอาหารสมดุลมีโอกาสป่วยเป็นโรคเรื้อรังน้อยกว่าผู้ที่รับประทานอาหารไม่สมดุลถึง 30% (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2562)
ลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ
การเลือกรับประทานขนมสามารถลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ ได้อย่างชัดเจน เช่น โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ, และโรคมะเร็ง ขนมที่มีประโยชน์มักมีน้ำตาลและไขมันทรานส์ต่ำ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคเหล่านี้ นอกจากนี้การบริโภคขนมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รีหรือช็อกโกแลตเข้มข้น สามารถช่วยลดการอักเสบและการเกิดโรคได้ จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขพบว่าผู้ที่บริโภคผักและผลไม้เพียงพอมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจต่ำกว่าผู้ที่ไม่บริโภคถึง 25% (กระทรวงสาธารณสุข, 2561)
การเลือกรับประทานขนมไม่เพียงแค่ทำให้เรารู้สึกอิ่มอร่อย แต่ยังช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมน้ำหนัก การรับประทานอาหารที่สมดุล หรือการลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ ขนมที่มีประโยชน์จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทุกคนอย่างแน่นอน
หลักการในการเลือกขนมที่ไม่อ้วน
เลือกขนมที่มีโปรตีนสูง
การเลือกขนมที่มีโปรตีนสูงเป็นวิธีที่ดีในการควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากโปรตีนช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นและช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ขนมที่นิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ เช่น โยเกิร์ตไขมันต่ำ ถั่วต่าง ๆ และโปรตีนบาร์ ในการศึกษาพบว่าผู้ที่บริโภคโปรตีนประมาณ 25-30% ของแคลอรี่ที่บริโภคต่อวันสามารถลดน้ำหนักได้มากกว่าผู้ที่บริโภคโปรตีนน้อยกว่า (กระทรวงสาธารณสุข, 2562) นอกจากนี้ยังช่วยในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน
เลือกขนมที่มีใยอาหารสูง
ใยอาหารปริมาณสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีและลดความหิว เช่น ผลไม้สด ผักสด และข้าวโอ๊ต ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องนานกว่าและลดความอยากอาหาร ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่าผู้ที่บริโภคใยอาหารประมาณ 25-30 กรัมต่อวันสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจได้ถึง 30% (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2563) การเลือกขนมที่มีใยอาหารสูงจึงเป็นวิธีที่ดีในการรักษาสุขภาพและควบคุมน้ำหนัก
หลีกเลี่ยงขนมที่มีน้ำตาลสูง
การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคอ้วนและโรคเรื้อรังอื่น ๆ ขนมที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน เค้ก และน้ำอัดลม ควรหลีกเลี่ยง การเลือกขนมที่มีน้ำตาลต่ำหรือไม่มีน้ำตาล เช่น ผลไม้สด หรือโยเกิร์ตที่ไม่มีน้ำตาล เป็นวิธีที่ดีในการลดการบริโภคน้ำตาล จากการศึกษาในปี 2561 พบว่าผู้ที่ลดการบริโภคน้ำตาลได้ 20% สามารถลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 2.5 กิโลกรัมใน 6 เดือน (กระทรวงสาธารณสุข, 2561)
เลือกขนมที่มีไขมันที่ดีต่อสุขภาพ
ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ขนมที่มีไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น อะโวคาโด ถั่วต่าง ๆ และน้ำมันมะกอก การเลือกขนมที่มีไขมันดีสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้ เนื่องจากไขมันช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องนานขึ้น การบริโภคไขมันที่ดีต่อสุขภาพประมาณ 20-35% ของแคลอรี่ที่บริโภคต่อวันเป็นสิ่งที่แนะนำโดยกระทรวงสาธารณสุข (กระทรวงสาธารณสุข, 2562)
การเลือกขนมที่ไม่อ้วนจำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งโปรตีน, ใยอาหาร, น้ำตาล, และไขมัน การทำความเข้าใจและปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกรับประทานขนมที่อร่อยและดีต่อสุขภาพได้อย่างยั่งยืน
แบ่งบันสูตร ขนมไม่อ้วน อร่อยไม่เพิ่มน้ำหนัก กินง่ายไม่ยุ่งยาก
ถั่วลิสงอบกรอบ
ถั่วลิสงเป็นแหล่งโปรตีนและไขมันดี มีไฟเบอร์ช่วยในการย่อยอาหาร และอุดมไปด้วยวิตามินอี แมกนีเซียม และโพแทสเซียม แคลอรี่: ประมาณ 200 กิโลแคลอรี่ ต่อ 1/4 ถ้วย (35 กรัม) และสารอาหาร: โปรตีน 7 กรัม, ไขมัน 14 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 6 กรัม
ส่วนผสม
- ถั่วลิสงดิบ 1 ถ้วย (ประมาณ 140 กรัม)
- น้ำตาลหล่อฮั่งก้วย 1 ช้อนชา
- เกลือเล็กน้อย
วิธีทำ
- เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
- นำถั่วลิสงดิบไปวางบนถาดอบ เรียงให้เป็นชั้นบาง (ใครไม่มีเตาอบก็สามารถคั่วกับกระทะได้)
- อบถั่วลิสงประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าจะกรอบและเหลือง
- นำออกมาพักให้เย็น โรยน้ำตาลหล่อฮั่งก้วยและเกลือ คนให้เข้ากัน
เฉาก๊วยนมสด
เฉาก๊วยช่วยในการย่อยอาหารและมีเส้นใยอาหารสูง นมสดให้แคลเซียมและโปรตีน ช่วยเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ แคลอรี่: ประมาณ 180 กิโลแคลอรี่ ต่อถ้วย สารอาหาร: โปรตีน 8 กรัม, ไขมัน 8 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 20 กรัม
ส่วนผสม
- เฉาก๊วย 1 ถ้วย (ประมาณ 240 กรัม)
- นมสด 1 ถ้วย (240 มิลลิลิตร)
- น้ำตาลหล่อฮั่งก้วย 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- หั่นเฉาก๊วยเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ในชามหรือแก้ว
- ราดนมสดลงไป
- โรยน้ำตาลหล่อฮั่งก้วย คนให้เข้ากัน
เครปเค้กไข่ขาวไส้กล้วยช็อกโกแลต
การใช้ไข่ขาว ทำให้เครปเค้กมีโปรตีนสูงและแคลอรี่ต่ำ ทำให้เหมาะสำหรับการลดน้ำหนัก ส่วนกล้วยให้พลังงานและใยอาหาร ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องนานขึ้น อีกทั้งยังให้วิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แคลอรี่: ประมาณ 250 กิโลแคลอรี่ ต่อชิ้น สารอาหาร: โปรตีน 15 กรัม, ไขมัน 3 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 35 กรัม
ส่วนผสม
- ไข่ขาว 6 ฟอง
- ผงโกโก้ไม่ผสมน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
- กล้วย 1 ลูก
- นมจืดสูตรไม่มีไขมัน 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- แยกไข่ขาวออกจากไข่แดง แล้วตีไข่ขาวให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะบนไฟอ่อน ฉีดสเปรย์น้ำมันมะกอกบาง ๆ
- ตักไข่ขาวลงในกระทะ กระจายให้เป็นแผ่นบาง ๆ รอจนสุกแล้วนำออกมาพักไว้
- บดกล้วยให้ละเอียด ผสมกับผงโกโก้และนมจืดให้เข้ากัน
- ทาไส้กล้วยช็อกโกแลตบนแผ่นเครปไข่ขาว แล้วม้วนให้แน่น
- ตัดเครปเค้กเป็นชิ้นพร้อมเสิร์ฟ
ฟักทองนึ่งกับน้ำจิ้มกะทิ
ฟักทองมีวิตามินเอ วิตามินซี และไฟเบอร์สูง กะทิสดมีไขมันดีที่ช่วยเสริมสร้างพลังงาน แคลอรี่: ประมาณ 160 กิโลแคลอรี่ ต่อถ้วย สารอาหาร: โปรตีน 2 กรัม, ไขมัน 10 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 16 กรัม
ส่วนผสม
- ฟักทอง 1 ถ้วย (ประมาณ 200 กรัม)
- กะทิสด 1/2 ถ้วย (120 มิลลิลิตร)
- น้ำตาลหล่อฮั่งก้วย 1 ช้อนชา
- เกลือเล็กน้อย
วิธีทำ
- นึ่งฟักทองจนสุก
- ผสมกะทิสดกับน้ำตาลหล่อฮั่งก้วยและเกลือ คนให้เข้ากัน
- ราดกะทิลงบนฟักทองนึ่ง พร้อมเสิร์ฟ
ช็อกโกแลตมูสอะโวคาโด
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไขมันดี เช่น กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งมีประโยชน์ในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้ ช็อกโกแลตมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความดันโลหิตและปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย
ส่วนผสมและวิธีทำ
ส่วนผสม
- อะโวคาโด 1 ลูก (ประมาณ 200 กรัม)
- ผงโกโก้แท้ 1 ช้อนชา
- เนยอัลมอนด์ช็อกโกแลต 1/2 ช้อนชา
- นมจืดพร่องมันเนย 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลหล่อฮั่งก้วย 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ปอกเปลือกอะโวคาโดและนำเมล็ดออก จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการปั่น
- ใส่อะโวคาโด ผงโกโก้ เนยอัลมอนด์ช็อกโกแลต นมจืดพร่องมันเนย และน้ำตาลหล่อฮั่งก้วยลงในเครื่องปั่น
- ปั่นส่วนผสมทั้งหมดจนได้เนื้อครีมที่เนียนนุ่ม
- ตักช็อกโกแลตมูสใส่ถ้วยและนำไปแช่เย็นอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้เนื้อครีมเซ็ตตัว
- ก่อนเสิร์ฟสามารถตกแต่งด้วยกราโนลาหรือผลไม้สดตามชอบ
เคล็ดลับในการรับประทานขนมไม่อ้วน
ควบคุมปริมาณการกิน
การควบคุมปริมาณการบริโภค เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาน้ำหนักและสุขภาพ การกินขนมในปริมาณที่เหมาะสมช่วยลดการบริโภคแคลอรี่เกินจำเป็น วิธีง่าย ๆ ในการควบคุมปริมาณ คือ การใช้ภาชนะขนาดเล็ก ๆ เช่น ใช้ถ้วยหรือจานเล็ก ๆ เพื่อแบ่งขนมออกเป็นส่วน ๆ ตัวอย่างเช่น ขนมถั่วลิสงอบกรอบ ควรจำกัดปริมาณให้ไม่เกิน 1/4 ถ้วยต่อครั้ง ซึ่งให้พลังงานประมาณ 200 กิโลแคลอรี่ และมีโปรตีนประมาณ 7 กรัม นอกจากนี้ การอ่านฉลากโภชนาการบนผลิตภัณฑ์ขนม สามารถช่วยให้เราเข้าใจถึงปริมาณแคลอรี่และสารอาหารที่ได้รับ และช่วยในการตัดสินใจเลือกขนมที่เหมาะสม
เลือกเวลาที่เหมาะสมในการรับประทาน
การกินจุบจิบทั้งวันนั้นอาจเกิดน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นการเลือกเวลากินสามารถช่วยในการควบคุมน้ำหนักและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยเลือกกินในช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการพลังงานสูง เช่น ช่วงสายหรือบ่าย สามารถช่วยเพิ่มพลังงานและความสดชื่นได้ดี ในทางกลับกัน การกินตอนดึกอาจทำให้ร่างกายไม่ได้ใช้พลังงานเหล่านั้นและสะสมเป็นไขมัน การศึกษาพบว่าการรับประทานอาหารในช่วงเวลาที่เหมาะสม สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจได้ถึง 30% (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2563)
จับคู่กับอาหารอื่น ๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
การจับคู่ขนมกับอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์สามารถช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการได้ ตัวอย่างเช่น การรับประทานโยเกิร์ตกับผลไม้สด เช่น สตรอว์เบอร์รีหรือบลูเบอร์รี ซึ่งมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง นอกจากจะเพิ่มรสชาติแล้วยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอีกด้วย หรือการจับคู่ถั่วลิสงอบกรอบกับผลไม้แห้ง เช่น ลูกเกด ซึ่งมีไฟเบอร์และธาตุเหล็ก ช่วยในการย่อยอาหารและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย การศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานอาหารที่มีความหลากหลายของสารอาหารมีความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังน้อยกว่าผู้ที่รับประทานอาหารไม่สมดุลถึง 25% (กระทรวงสาธารณสุข, 2561)
การเลือกขนมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาน้ำหนักและสุขภาพที่ดี โดยเน้นกินที่มีโปรตีนสูง, ใยอาหารสูง, และไขมันดี สามารถช่วยให้เรารู้สึกอิ่มท้องนานขึ้นและลดการบริโภคแคลอรี่เกินจำเป็น แต่อย่างไรก็ตาม ต้องควบคุมการกินให้เป็นเวลาและกินในปริมาณที่ไม่มากเกินไป จะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานในช่วงเวลาที่ต้องการ อีกทั้งการจับคู่ขนมกับอาหารที่มีประโยชน์จะเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานขนมโดยไม่ต้องรู้สึกผิด การตระหนักถึงการเลือกขนมที่ดีต่อสุขภาพและการรับประทานอย่างมีสติ ไม่เพียงช่วยในการรักษาน้ำหนัก แต่ยังเสริมสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาว เมื่อเราเลือกขนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการและบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม เราจะสามารถรับประทานขนมได้ทุกวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักหรือสุขภาพ การมีความรู้และการเลือกขนมที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงในทุกมื้อของเรา
คำถามที่พบบ่อย
1. ขนมอะไรที่เหมาะกับการรับประทานระหว่างลดน้ำหนัก?
ควรเป็นขนมที่มีโปรตีนสูง ใยอาหารสูง และมีไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ขนมถั่วลิสงอบกรอบ โยเกิร์ตกับผลไม้สด หรือเครปไข่ขาวไส้กล้วยช็อกโกแลต ขนมเหล่านี้ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานและควบคุมน้ำหนักได้ดี
2. น้ำตาลหล่อฮั่งก้วยดีต่อสุขภาพอย่างไร?
น้ำตาลหล่อฮั่งก้วย เป็นสารให้ความหวานที่มีแคลอรี่ต่ำ ไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือผู้ป่วยเบาหวาน นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย
3. เวลาที่ดีที่สุดในการรับประทานขนมคือเวลาใด?
เวลาที่ดีที่สุดในการรับประทานขนม คือ ช่วงสายหรือบ่าย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการพลังงาน การรับประทานขนมในช่วงเวลานี้จะช่วยเพิ่มพลังงานและความสดชื่น ในขณะเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขนมในตอนดึก เนื่องจากร่างกายจะไม่สามารถใช้พลังงานเหล่านั้นได้เต็มที่และอาจสะสมเป็นไขมัน
4. การรับประทานขนมควบคู่กับอาหารอื่น ๆ มีประโยชน์อย่างไร?
การเลือกกินควบคู่กับอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้สดหรือธัญพืช จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและเสริมสร้างสุขภาพ ขนมที่มีโปรตีนหรือใยอาหารสูงจะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดความหิวระหว่างมื้อ และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น การจับคู่ขนมกับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและโรคเบาหวาน
อ้างอิง
- Snacks for adults, MedlinePlus, July 30, 2022, https://medlineplus.gov/ency/patientinstructions/000338.htm
- Ariane Lang, 29 Healthy Snacks for Weight Loss, April 26, 2024, https://www.healthline.com/nutrition/29-healthy-snacks-for-weight-loss
- How to Choose Healthy Snacks (That Won’t Derail Your Otherwise Healthy Diet!), Cleveland Clinic,June 27, 2023, https://health.clevelandclinic.org/how-to-choose-healthy-snacks-that-wont-derail-your-otherwise-healthy-diet